นายสุชีพ ธรรมาชีพเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่ม Bakery & Beverage Cuisine เปิดเผยว่า ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่หันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น อีกทั้งกระแสการตอบรับเนื้อจากพืชกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในหลายประเทศ รวมถึงในประเทศไทย
โดยจะเห็นได้ว่าตั้งแต่ปี 2563 การบริโภคเนื้อจากพืชในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืชมีการพัฒนาให้มีความหลากหลายมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเปิดใจมากขึ้น จึงเป็นโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภค
ซึ่งการร่วมมือกันระหว่าง อานตี้ แอนส์ และ MEAT ZERO เป็นการนำเอาจุดแข็งของทั้ง 2 แบรนด์ คือ ความเป็นผู้นำตลาดซอฟท์เพรทเซลในประเทศไทย ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร กับเพรทเซลสีน้ำตาลทอง กรอบนอกนุ่มใน และความอร่อยที่สาวกเพรทเซลคุ้นเคย มาร่วมพัฒนากับ MEAT ZERO ผู้นำด้านนวัตกรรมอาหารที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมของซีพีเอฟ เป็นแบรนด์แพลนต์เบสของไทยที่มีความโดดเด่น ให้รสชาติที่อร่อย รวมถึงกลิ่นและเนื้อสัมผัสที่เหมือนเนื้อไก่จริง ๆ
สำหรับแผนการตลาด เน้นทำการตลาดออนไลน์ ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มแฟนของอานตี้ แอนส์ และ กลุ่มมังสวิรัติแบบยืดหยุ่น (Flexitarian) หรือกลุ่มผู้บริโภคที่รับประทานอาหารมังสวิรัสติแบบยืดหยุ่นเป็นครั้งคราว ที่ขณะนี้มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น
ส่วนการสื่อสารกับลูกค้าเน้นสื่อสารผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย, อินฟลูเอนเซอร์ , KOLs และบล็อกเกอร์ ทั้งสายสุขภาพ และ สายไลฟ์สไตล์ ครอบคลุมทุกแฟลตฟอร์ม ทั้ง Facebook, IG, TikTok, Twitter เป็นต้น โดยตั้งเป้าว่าแคมเปญนี้จะสามารถสร้างยอดขายเติบโตได้กว่า 20%