บางกอกแอร์เวย์สขาดทุนอ่วมQ3ปี64หลังยกเลิกสัญญาเช่ากองทุนสนามบินสมุย

16 พ.ย. 2564 | 03:49 น.
อัปเดตล่าสุด :16 พ.ย. 2564 | 11:02 น.

บางกอกแอร์เวย์ส (BA) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 ขาดทุนหนัก โดยเป็นผลจากการยกเลิกสัญญาเช่ากองทุนสนามบินสมุย 5,434.7 ล้านบาท

วันนี้ (16 พฤศจิกายน 2564) บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (BA) ประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 บริษัทฯ มีผลขาดทุนทางบัญชีจากการยกเลิกสัญญาเช่ากองทุนสนามบินสมุย 5,434.7 ล้านบาทซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (one-off transaction) และมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 1,243.8 ล้านบาท บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 6,987.3 ล้านบาท 

 

บางกอกแอร์เวย์สขาดทุนอ่วมQ3ปี64หลังยกเลิกสัญญาเช่ากองทุนสนามบินสมุย

บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 672.3 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2563 ร้อยละ 25.3 เป็นผลจากการหยุดการปฏิบัติการบินชั่วคราวตามประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึงเดือนสิงหาคม 2564 และกลับมาทำการบินอีกครั้งในเดือนกันยายน 2564 ในเส้นทางกรุงเทพฯ-สมุย, กรุงเทพฯ-เชียงใหม่, กรุงเทพฯ-สุโขทัย, กรุงเทพฯ-ลำปาง และกรุงเทพ-ภูเก็ต 

 

บางกอกแอร์เวย์สขาดทุนอ่วมQ3ปี64หลังยกเลิกสัญญาเช่ากองทุนสนามบินสมุย

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ว่า “สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้ 3,472.4 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2563 ร้อยละ 57.5 ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้บัตรโดยสารของธุรกิจสายการบินและธุรกิจสนามบิน ลดลงจากปีก่อน ร้อยละ 88.3 และ 85.0 ตามลำดับ มีจำนวนเที่ยวบินลดลงจากปีก่อน ร้อยละ 75.9 และมีอัตราการขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ร้อยละ 55.2 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมเท่ากับ 6,083.2 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 51.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 2,587.4 ล้านบาท  

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้วางแผนปฏิบัติการบินให้เหมาะสมและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งเปิดให้บริการเที่ยวบินพิเศษภายใต้โครงการพื้นที่นำร่องเปิดประเทศ ได้แก่ โครงการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และ สมุยพลัสโมเดล เพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยยังคงปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด 

 

บริษัทฯ มีส่วนแบ่งกำไรเงินลงทุนในบริษัทร่วม ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ 413.4 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจี คาร์โก้ จำกัด