บริษัทเฟรเซอร์สพร็อพเพอร์ตี้(ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน) หรือ“FPT”ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทเอ็น.ซี.ซี.แมนเนจ เม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ“NCC”ให้ร่วมพัฒนาคอนเซ็ปต์และบริหารงานก่อสร้างโครงการ"ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์" (Queen Sirikit National Convention Center หรือ QSNCC) โฉมใหม่
ด้วยความเชื่อมั่นในประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของ FPT ในการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ชั้นนำหลายแห่ง ตลอดจนเป็นบริษัทฯ ภายใต้แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ระดับโลกอย่าง ‘เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้’ จึงเป็นการการันตีคุณภาพ และมาตรฐานความเป็นสากลอย่างเต็มรูปแบบ
บริษัทฯ ได้เพิ่ม 5 ไฮไลต์ ที่จะสร้างความแตกต่างและความเป็นสุดยอดศูนย์ประชุมที่ดีที่สุดในประเทศไทย มาใช้ในการพัฒนาโครงการ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของ QSNCC ในการเป็น The Ultimate Inspiring World Class Event Platform for All ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงการมีความคืบหน้าแล้วกว่า 60% บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถรักษาไทม์ไลน์การก่อสร้างและการส่งมอบพื้นที่ได้ตามแผนอย่างแน่นอน โดยโครงการศูนย์สิริกิติ์โฉมใหม่ มีกำหนดการเปิดให้บริการเดือนกันยายน 2565
นายวิทวัส คุตตะเทพ รองกรรม การผู้จัดการอาวุโสสายโครงการเชิงพาณิชยกรรมเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) กล่าวว่า FPT ได้รับความไว้วางใจจาก NCC ให้ร่วมพัฒนาคอนเซ็ปต์ และบริหารงานก่อสร้างศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่ ที่มีความทันสมัยและปลอดภัยสูง รองรับการจัดอีเวนต์ทุกรูปแบบ ตลอดจนงานประชุมสำคัญระดับโลก ด้วยเป้าหมายหมายการเป็นโครงการศูนย์ประชุมระดับเวิลด์คลาสแห่งใหม่ของเอเชีย โดยใช้คอนเซ็ปต์ สืบสาน รักษา ต่อยอดในการออกแบบศูนย์ฯสิริกิติ์ให้มีความร่วมสมัยพร้อมดึงศักยภาพของโครงการด้วยการเพิ่มขนาดพื้นที่ รวม 300,000 ตรม. ซึ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 5 เท่า หรือ เทียบเท่ากับสนามฟุตบอลกว่า50 สนาม
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ พร้อมด้วยเทคโนโลยีทันสมัยและองค์ความรู้ระดับนานาชาติของกลุ่มเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ มาใช้เพื่อพัฒนาโครงการ นอกจากนี้ บริษัทฯยังทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับทีมงานมืออาชีพหลากหลายแขนงเพื่อให้มั่นใจว่าศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่นี้ จะมีคุณภาพและตามมาตรฐานเทียบเท่าระดับนานาชาติ
“แม้ว่าจะต้องเผชิญกับข้อจำกัดในเรื่องระยะเวลาการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ที่มีรายละเอียดมาก และมีความท้าทายในการเสริมศักยภาพโครงการด้วยการเพิ่มชั้นใต้ดินกว่า 45% ของพื้นที่โครงการทั้งหมด สำหรับเป็นพื้นที่รีเทลและอาคารจอดรถได้มากถึง 3,000 คัน นอกจากนี้ ยังมีอุปสรรคจากการล็อกดาวน์แคมป์ก่อสร้างในช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม 2564 ร่วม 60 วัน แต่บริษัทฯ ยังคงสามารถรักษาไทม์ไลน์การก่อสร้างได้ตามแผน โดยปัจจุบันมีความคืบหน้าแล้วกว่า 60% ด้วยการบริหารงานเชิงรุก และวางแผนอย่างรอบครอบ พร้อมกับการร่วมมือกันระหว่างทีมงานมืออาชีพที่มีคุณภาพ ทำให้สามารถเอาชนะกับทุกความท้าทายได้ด้วยดี FPT มั่นใจว่าจะสามารถพัฒนาและส่งมอบโครงการที่มีคุณภาพเทียบเท่าระดับสากล เพื่อให้ทันกับกำหนดการเปิดให้บริการในเดือนกันยายน 2565 อย่างแน่นอน” นายวิทวัส กล่าวเสริม
ทั้งนี้เพื่อยกระดับศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่ให้เป็น The Ultimate Inspiring World Class Event Platform for All บริษัทฯ ได้เพิ่ม5ไฮไลต์เพื่อสร้างความแตกต่างและความเป็นสุดยอดศูนย์ประชุมที่ดีที่สุดในประเทศไทย ได้แก่