"อพท." ลุยปั้นเพิ่ม 50 ชุมชนมาตรฐานโลกเสิร์ฟตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพ

28 พ.ย. 2564 | 07:37 น.
อัปเดตล่าสุด :28 พ.ย. 2564 | 14:37 น.

อพท. เดินหน้าปั้นเพิ่ม 50 ชุมชนท่องเที่ยวยั่งยืนมาตรฐานโลก เตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ ตอบนโยบาย BCG โมเดล เผยปัจจุบันมีแล้ว 12 ชุมชนในพื้นที่พิเศษ พร้อมเสิร์ฟตลาดคนไทยและชาวต่างชาติ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ปี 65 ได้มอบหมายให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. พัฒนาศักยภาพชุมชนอีก 50 ชุมชน ซึ่งก่อนหน้านี้ อพท. ดำเนินการพัฒนาศักยภาพให้กับชุมชนในพื้นที่พิเศษทั้ง 6 แห่ง ได้มาตรฐานระดับโลกไปแล้วจำนวน 12 ชุมชน
โดยใช้เกณฑ์การท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืน (CBT Thailand) ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากสภาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลกว่าสอดคล้องกับเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Criteria หรือ GSTC) ดังนั้นทั้ง 12 ชุมชนที่ อพท. พัฒนาแล้วเสร็จนี้ จึงสามารถนำไปต่อยอดทางการตลาดนำเสนอขายต่อนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายที่เป็นตลาดระดับคุณภาพได้ทันที ได้แก่ 

ชุมชนตะเคียนเตี้ย จ.ชลบุรี ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว จ.ตราด ชุมชนหนองอ้อ จ.สุโขทัย ชุมชนเมืองเก่าสุโขทัย จ.สุโขทัย ชุมชนบ้านคุกพัฒนา จ.สุโขทัย ชุมชนนครชุม จ.กำแพงเพชร ชุมชนกกสะทอน จ.เลย ชุมชนภูป่าเปาะ จ.เลย ชุมชนภูหลวง จ.เลย ชุมชนในเวียง จ.น่าน ชุมชนบ่อสวก จ.น่าน และชุมชนเมืองโบราณทวราวดี-อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี

"สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (covid-19) ไม่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวหันมาให้ความสำคัญเฉพาะเรื่องสุขอนามัยแต่เพียงอย่างเดียว แต่ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งระบบต้องหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืนในทุกมิติมากขึ้น ซึ่งมิใช่เรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงเรื่องเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม พฤติกรรมนักท่องเที่ยว ที่เริ่มสนใจแหล่งท่องเที่ยวชุมชนมากขึ้น เนื่องจากผู้คนไม่พลุกพล่าน ได้เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน สร้างประสบการณ์การเรียนรู้ทางวัฒนธรรม หรือที่เรียกว่า การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism) ชุมชนที่มีศักยภาพสามารถรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพได้จึงจำเป็นต้องมีมาตรฐาน โดยเฉพาะมาตรฐานระดับสากล เพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพทั้งไทยและต่างประเทศที่กว้างขวางมากขึ้น​"
นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการ อพท. กล่าวว่า ทั้ง 12 ชุมชน ดังกล่าว นับเป็นต้นแบบของชุมชนที่ได้รับการพัฒนาและยกระดับตามมาตรฐานการท่องเที่ยวยั่งยืนโลก มีความพร้อมที่จะนำออกสู่ตลาดการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืน ทำให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับในระดับสากลมาแล้วหลายรางวัล เช่น ตำบลในเวียง จ.น่าน ตำบลเชียงคาน จ.เลย ได้รับการประกาศให้เป็นสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก (Global Sustainable Destinations Top 100) ในปี 2563 

อพท. ปั้นเพิ่ม 50 ชุมชนมาตรฐานโลก
ตำบลเมืองเก่า จ.สุโขทัย ได้รับการประกาศเป็นสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลกในปี 2564 โดยก่อนหน้านี้ จ.สุโขทัยยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้าน ในปี 2562 

สำหรับแผนยกระดับชุมชนต้นแบบปี 2565 อพท. จะคัดเลือก 50 ชุมชนที่มีศักยภาพตามมาตรฐานการท่องเที่ยวโดยชุมชนในระดับสากล มาพัฒนาต่อยอดให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ตอบโจทย์แนวทางการพัฒนาตามนโยบาย BCG Model มากขึ้น เช่น กิจกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่ปลดปล่อยคาร์บอนอย่างสมดุล (Carbon Neutral CBT) และการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสุขภาพ (Wellness CBT) เป็นต้น โดยจะเป็นชุมชนที่อยู่ในพื้นที่พิเศษและในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวตามที่คณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติมอบหมาย

ปั้นเพิ่ม 50 ชุมชนมาตรฐานโลก
ทั้งนี้ ล่าสุด อพท. อยู่ระหว่างนำเสนอชุมชนบ่อสวก จังหวัดน่าน หนึ่งในชุมชนต้นแบบที่ อพท. พัฒนาจากเกณฑ์ CBT Thailand เข้าประกวดรางวัล UNWTO Best Tourism Village เพื่อต้องการประกาศความสำเร็จจากการพัฒนาชุมชนต้นแบบด้านการท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทย ที่ได้มาตรฐานระดับสากลอย่างแท้จริง 
โดยที่ผ่านมา อพท. ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาต้นแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงสร้างสรรค์ ได้รับมาตรฐานระดับโลกมากกว่า 70 ชุมชน ซึ่งทุกชุมชน อพท. พร้อมที่จะส่งมอบให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปส่งเสริมการตลาดต่อไป