ซาลอตโต้ บูมตลาดกาแฟ นำเข้าเครื่องคั่ว PROBAT เจาะ New Roaster
ตลาดกาแฟคึกคัก “ซาลอตโต้” รุกนำเข้าแบรนด์ดังจากเยอรมนี เสริมแกร่งพอร์ต ตอกย้ำผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟครบวงจร ตั้งเป้าเติบโต 35% เผยโควิด-19 ฉุดยอดขายกาแฟวูบ 40%
นายอภิชา แย้มเกษร ผู้ก่อตั้ง บริษัท ซาลอตโต้ จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์การนำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องคั่วกาแฟ PROBAT เปิดเผยว่าหลังได้รับเลือกให้เป็นตัวแทน PROBAT Authorized Dealer เจ้าเดียวในประเทศไทย ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าพรีเมียม เนื่องจากตัวเครื่องคั่วเมล็ดกาแฟ PROBAT เป็นเครื่องคั่วที่ผลิตอย่างพิถีพิถันและใช้เทคโนโลยีสูง
เช่นรุ่น P Series ที่เปิดตัวเมื่อต้นปี 2021 เป็นรุ่นที่ฉลาดล้ำ เพราะนำเอามาผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เมื่อคั่วกาแฟจบแล้วก็สามารถบันทึกข้อมูลเก็บไว้ได้ เมื่อต้องการคั่วกาแฟซ้ำก็สามารถทำซ้ำได้เองโดยอัตโนมัติ รวมถึงว่า หากทำในสภาพอากาศที่แตกต่างกัน ตัวเครื่องก็จะปรับเปลี่ยนให้เองอัตโนมัติด้วย
โดยจุดเด่นที่ทำให้ PROBAT แตกต่างจากแบรนด์เครื่องคั่วกาแฟอื่นๆ คือ PROBAT ได้ค้นคว้าและสั่งสมความรู้เรื่องเทคนิคการคั่วมาเป็นเวลานานกว่า 150 ปี นั่นจึงทำให้ PROBAT เป็นเครื่องคั่วกาแฟที่มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากกว่าเครื่องคั่วกาแฟแบรนด์อื่น และจุดเด่นอีกอย่างคือระบบของ Drum หรือถังคั่วที่มีการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ PROBAT เอง
ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเมล็ดกาแฟได้ดี เมล็ดกาแฟในถังคั่วจึงได้รับความร้อนอย่างทั่วถึงและสุกเสมอกัน รวมทั้งยังมีระบบการดูแล Service ลูกค้าที่ดี ซึ่งในหลายบริษัทชั้นนำระดับโลกยังใช้เครื่องคั่วกาแฟ PROBAT หลายเครื่องคั่วที่มีอายุ 40-50 ปีก็ยังใช้อยู่ และเมื่อลูกค้าต้องการเครื่องคั่วกาแฟใหม่เพิ่มก็ยังคงเลือกใช้ PROBAT อยู่เสมอ
ทั้งนี้เพื่อรองรับเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาคือ คนกลุ่ม New Roaster ซึ่งเป็นเจ้าของร้านกาแฟ นอกเหนือจากกลุ่มพรีเมียมที่ทำโรงคั่วกาแฟระดับมืออาชีพอย่างที่ผ่านมา คนกลุ่มใหม่นี้มีความต้องการที่จะคั่วกาแฟในสไตล์ของตัวเอง ดังนั้นก็จะสามารถเข้าถึง PROBAT ได้ง่ายขึ้น โดยจะเน้นไปที่เครื่องคั่วกาแฟขนาดเล็ก (1-12 กิโลกรัม) ในราคาที่รวม Option ทุกอย่างเข้าไว้ด้วยกัน ที่สำคัญคือ มีระบบผ่อนชำระที่จะเข้ามาช่วยเสริมในส่วนนี้ด้วย โดยตั้งเป้ายอดขาย 20 ล้านบาทในปีนี้ เติบโตขึ้นจากปีก่อน 35%
ปัจจุบัน PROBAT มีส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มเครื่องคั่วกาแฟ 30% โดยเครื่องคั่วกาแฟกลุ่มพรีเมียมมีส่วนแบ่งทางการตลาด 65% และในเดือนมิถุนายนนี้จะมีการเปิดตัวเครื่องคั่วกาแฟขนาดเล็ก ขนาด1 กิโลกรัม ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าร้านกาแฟที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดโอมิครอนในขณะนี้ แบรนด์ PROBAT และธุรกิจของซาลอตโต้ ได้รับผลกระทบน้อยมาก แม้ว่ายอดขายกาแฟคั่วจะลดลงเกือบ 40% แต่ยอดขายของเครื่องคั่วกาแฟกลับโตขึ้นถึง 200% ขณะที่ตลาดกาแฟไทยในปี 2563 มีมูลค่าประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ลดลง 10-50% ดังนั้นซาลอตโต้จึงตั้งเป้าไว้ว่าปีนี้จะต้องเพิ่มมูลค่าการขยายตัวของยอดขายกาแฟให้ได้ 20-30% และเครื่องคั่วกาแฟ 35% โดยจะมีการขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้านเช่น สป.ลาว และเมียนมาด้วย
หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,748 วันที่ 13 - 15 มกราคม พ.ศ. 2565