กรมสบส.เตือนแฟชั่น“สักคิ้ว–ขอบตา-ขอบปาก”ระวังอันตราย

09 พ.ค. 2559 | 02:50 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ค. 2559 | 10:25 น.
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้วัยรุ่นหนุ่มสาว  นิยมการสักลวดลายบนร่างกายมากขึ้น จุดที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ได้แก่ คิ้ว ขอบตา และขอบปาก เพื่อให้ใบหน้าดูโดดเด่น สะดุดตา ในการใช้บริการจะต้องระมัดระวัง เนื่องจากการสักเป็นการนำสีเข้าสู่ร่างกาย โดยผ่านกระบวนการเจาะผ่านทางผิวหนัง  ซึ่งจะมีความเสี่ยงทั้งจากอุบัติเหตุระหว่างการสัก การติดเชื้อจากการใช้อุปกรณ์สักไม่สะอาด และเสี่ยงเป็นมะเร็ง เนื่องจากสีที่ใช้อาจมีโลหะหนักผสมอยู่  ซึ่งหลังจากสักแล้ว สีจะอยู่ได้ชั่วคราวประมาณ 6 เดือน จะต้องไปสักเติมสีซ้ำอีก

การสักโดยทั่วไปจะมี 2 ประเภท  ประเภทแรก ได้แก่ สักเพื่อการรักษา จัดอยู่ในประเภทการประกอบวิชาชีพเวชกรรม  วัตถุประสงค์เพื่อบำบัดโรค แก้ไขความผิดปติของร่างกาย  เช่น การสร้างขอบปากให้ผู้ป่วยภายหลังผ่าตัดปากแหว่ง  หรือการทำหัวนมและลานหัวนมเทียมภายหลังการผ่าตัดเต้านม เป็นต้น  ผู้ให้การรักษาจะต้องเป็นแพทย์ ที่ขึ้นทะเบียนกับแพทยสภา  และมีความรู้ความสามารถในหัตถการดังกล่าว สถานพยาบาลที่ให้บริการต้องขึ้นทะเบียนขออนุญาตจากสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ  กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541

ประเภทที่สอง คือ การสักเพื่อความสวยงาม  ไม่จัดเป็นการประกอบวิชาชีพเวชกรรม  ไม่ได้อยู่ในความดูแลของกระทรวงสาธารณสุข   สถานที่สัก ส่วนใหญ่เป็นร้านเสริมสวยหรือร้านที่ให้บริการสักโดยเฉพาะ  การสักที่กำลังเป็นที่นิยมของหญิงสาวและน่าเป็นห่วงถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้  มี 3 จุด ได้แก่ การสักขอบตาถาวรทำให้ดูแล้วตาโต     สักคิ้วถาวร ทำให้คิ้วดกดำหรือเป็นมิติเห็นลายเส้นขน ไม่ต้องเขียนหรือวาดทุกครั้งที่แต่งหน้า   รวมทั้งการสักขอบปาก ให้มีสีอมชมพู  เหมือนกับเป็นผู้ที่มีสุขภาพดี เลือดฝาดไหลเวียนดี  ซึ่งการสักมีความเสี่ยงทั้งการเกิดอุบัติเหตุ เข็มแทงลูกตา เครื่องมือไม่สะอาด สีที่ใช้สักปนเปื้อนเชื้อโรคหรือสารโลหะหนัก   การสักประเภทเพื่อความสวยงามมักจะมีการโฆษณาในสื่ออินเตอร์เน็ต และหนังสือประเภทบันเทิงจำนวนมาก

“โดยเฉพาะการสักขอบตาถาวร   เป็นบริเวณที่มีความเสี่ยงอันตรายกับลูกตามากที่สุด  เนื่องจากการใช้วัสดุแหลมคม สักที่บริเวณขอบตาชิดกับขนตา ทั้งด้านบนและด้านล่าง เป็นจุดที่ผิวหนังบอบบาง ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างมาก หากพลาดเข็มแทงเข้าตา หรือสีที่ใช้กระเด็นเข้าตา  อาจทำให้เยื่อบุตาขาวติดเชื้อ อักเสบรุนแรงถึงขั้นตาบอดได้” นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรืองกล่าว

ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะกล่าวว่า การสักที่ขอบปาก จัดเป็นอันตรายใกล้ปาก หากเป็นสีที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือมีสารโลหะหนักที่อยู่ในสี เช่นตะกั่ว อาจซึมเข้าไปตามรอยสัก หรือปนเปื้อนขณะกินอาหาร ดื่มน้ำ หรือเลียปาก สะสมในร่างกายและเป็นอันตรายได้โดยเฉพาะโรคมะเร็ง   จึงขอให้ประชาชนพิถีพิถันในเรื่องคุณภาพเป็นพิเศษ  ควรตระหนักถึงความปลอดภัยและความสะอาดอุปกรณ์  เลือกร้านที่ตั้งอยู่ในที่เปิดเผย เป็นหลักแหล่งแน่นอน  ก่อนตัดสินใจสัก ขอให้ศึกษาให้รอบคอบถึงผลเสียและอาการข้างเคียงจากการสัก เช่นรอยแผลเป็น อาการบวม คัน หรือแพ้สีที่ใช้สัก  เพราะหากต้องการลบรอยสักในภายหลัง จะมีค่าใช้จ่ายสูง และไม่สามารถลบรอยออกได้หมด  ในส่วนของผู้ที่ให้บริการสัก  ขอให้คำนึงถึงความสะอาดเป็นหลัก   ควรล้างทำความสะอาด ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ก่อนนำมาสัก  หรือเลือกใช้ชนิดที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง   ส่วนสีที่ใช้สัก ควรแยกใช้ให้ลูกค้าแต่ละราย  ไม่ควรใช้ร่วมกัน เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ เช่นไวรัสตับอักเสบบี เชื้อเอชไอวีเป็นต้น