กรมสบส.เตือนแฟชั่น“สักคิ้ว–ขอบตา-ขอบปาก”ระวังอันตราย
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้วัยรุ่นหนุ่มสาว นิยมการสักลวดลายบนร่างกายมากขึ้น จุดที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ได้แก่ คิ้ว ขอบตา และขอบปาก เพื่อให้ใบหน้าดูโดดเด่น สะดุดตา ในการใช้บริการจะต้องระมัดระวัง เนื่องจากการสักเป็นการนำสีเข้าสู่ร่างกาย โดยผ่านกระบวนการเจาะผ่านทางผิวหนัง ซึ่งจะมีความเสี่ยงทั้งจากอุบัติเหตุระหว่างการสัก การติดเชื้อจากการใช้อุปกรณ์สักไม่สะอาด และเสี่ยงเป็นมะเร็ง เนื่องจากสีที่ใช้อาจมีโลหะหนักผสมอยู่ ซึ่งหลังจากสักแล้ว สีจะอยู่ได้ชั่วคราวประมาณ 6 เดือน จะต้องไปสักเติมสีซ้ำอีก
การสักโดยทั่วไปจะมี 2 ประเภท ประเภทแรก ได้แก่ สักเพื่อการรักษา จัดอยู่ในประเภทการประกอบวิชาชีพเวชกรรม วัตถุประสงค์เพื่อบำบัดโรค แก้ไขความผิดปติของร่างกาย เช่น การสร้างขอบปากให้ผู้ป่วยภายหลังผ่าตัดปากแหว่ง หรือการทำหัวนมและลานหัวนมเทียมภายหลังการผ่าตัดเต้านม เป็นต้น ผู้ให้การรักษาจะต้องเป็นแพทย์ ที่ขึ้นทะเบียนกับแพทยสภา และมีความรู้ความสามารถในหัตถการดังกล่าว สถานพยาบาลที่ให้บริการต้องขึ้นทะเบียนขออนุญาตจากสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541
ประเภทที่สอง คือ การสักเพื่อความสวยงาม ไม่จัดเป็นการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ไม่ได้อยู่ในความดูแลของกระทรวงสาธารณสุข สถานที่สัก ส่วนใหญ่เป็นร้านเสริมสวยหรือร้านที่ให้บริการสักโดยเฉพาะ การสักที่กำลังเป็นที่นิยมของหญิงสาวและน่าเป็นห่วงถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ มี 3 จุด ได้แก่ การสักขอบตาถาวรทำให้ดูแล้วตาโต สักคิ้วถาวร ทำให้คิ้วดกดำหรือเป็นมิติเห็นลายเส้นขน ไม่ต้องเขียนหรือวาดทุกครั้งที่แต่งหน้า รวมทั้งการสักขอบปาก ให้มีสีอมชมพู เหมือนกับเป็นผู้ที่มีสุขภาพดี เลือดฝาดไหลเวียนดี ซึ่งการสักมีความเสี่ยงทั้งการเกิดอุบัติเหตุ เข็มแทงลูกตา เครื่องมือไม่สะอาด สีที่ใช้สักปนเปื้อนเชื้อโรคหรือสารโลหะหนัก การสักประเภทเพื่อความสวยงามมักจะมีการโฆษณาในสื่ออินเตอร์เน็ต และหนังสือประเภทบันเทิงจำนวนมาก
“โดยเฉพาะการสักขอบตาถาวร เป็นบริเวณที่มีความเสี่ยงอันตรายกับลูกตามากที่สุด เนื่องจากการใช้วัสดุแหลมคม สักที่บริเวณขอบตาชิดกับขนตา ทั้งด้านบนและด้านล่าง เป็นจุดที่ผิวหนังบอบบาง ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างมาก หากพลาดเข็มแทงเข้าตา หรือสีที่ใช้กระเด็นเข้าตา อาจทำให้เยื่อบุตาขาวติดเชื้อ อักเสบรุนแรงถึงขั้นตาบอดได้” นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรืองกล่าว
ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะกล่าวว่า การสักที่ขอบปาก จัดเป็นอันตรายใกล้ปาก หากเป็นสีที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือมีสารโลหะหนักที่อยู่ในสี เช่นตะกั่ว อาจซึมเข้าไปตามรอยสัก หรือปนเปื้อนขณะกินอาหาร ดื่มน้ำ หรือเลียปาก สะสมในร่างกายและเป็นอันตรายได้โดยเฉพาะโรคมะเร็ง จึงขอให้ประชาชนพิถีพิถันในเรื่องคุณภาพเป็นพิเศษ ควรตระหนักถึงความปลอดภัยและความสะอาดอุปกรณ์ เลือกร้านที่ตั้งอยู่ในที่เปิดเผย เป็นหลักแหล่งแน่นอน ก่อนตัดสินใจสัก ขอให้ศึกษาให้รอบคอบถึงผลเสียและอาการข้างเคียงจากการสัก เช่นรอยแผลเป็น อาการบวม คัน หรือแพ้สีที่ใช้สัก เพราะหากต้องการลบรอยสักในภายหลัง จะมีค่าใช้จ่ายสูง และไม่สามารถลบรอยออกได้หมด ในส่วนของผู้ที่ให้บริการสัก ขอให้คำนึงถึงความสะอาดเป็นหลัก ควรล้างทำความสะอาด ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ก่อนนำมาสัก หรือเลือกใช้ชนิดที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ส่วนสีที่ใช้สัก ควรแยกใช้ให้ลูกค้าแต่ละราย ไม่ควรใช้ร่วมกัน เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ เช่นไวรัสตับอักเสบบี เชื้อเอชไอวีเป็นต้น