นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า หลังจากประเทศไทยได้ฟื้นความสัมพันธ์กับประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศ ได้หารือร่วมกับซาอุฯ นำร่องไปแล้ว ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะนำคณะหอการค้า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และภาคเอกชนไปซาอุฯ ในวันที่ 26-27 กุมภาพันธ์นี้ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้วางแผนในการนำผู้ประกอบการภาคเอกชนท่องเที่ยวไทยไปโรดโชว์ที่ซาอุฯ ช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการท่องเที่ยวไทย โดยตั้งเป้าในปี 2565 ในการดึงนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบียมาไทยให้ได้ 2 แสนคน สร้างรายได้ประมาณ 20,000 ล้านบาท หลังจากไทยเสียโอกาสในตลาดนี้ไปแล้วกว่า 30 ปี ที่ผ่านมา
การประชุมหารือกันทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวฯ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และภาคเอกชน เพื่อทำความเข้าใจ รวมถึงให้เอกชนเตรียมความพร้อมในธุรกิจของตัวเอง เพื่อนำเสนอในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะนำคณะเข้าไปจัดทำบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ระหว่างกัน ในการทำตลาดท่องเที่ยวแบบ 2 ทาง คือ ชาวซาอุดิอาระเบีย สามารถมาเที่ยวไทยได้ และคนไทยสามารถไปเที่ยวซาอุดิอาระเบียได้เช่นกัน
อาทิ จะส่งเสริมให้ผู้แสวงบุญชาวไทย เดินทางท่องเที่ยวได้หลังประกอบพิธีแสวงบุญ ทั้งพิธีฮัจญ์ และอุมเราะห์ รวมทั้งขยายเวลาการพำนักในซาอุฯให้แก่คนไทยที่ได้วีซ่าแสวงบุญ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้จัดทำร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่าง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยกับกระทรวงท่องเที่ยวของซาอุดิอาระเบีย ซึ่งตอนนี้ได้ส่งร่างไปให้ซาอุฯ ตรวจสอบแล้ว
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า จะเสนอให้กระทรวงการต่างประเทศ ช่วยหารือนโยบายการขอวีซ่าของ 2 ประเทศ เพื่อช่วยให้การเดินทางระหว่างกันมีความสะดวกมากขึ้น เนื่องจากตั้งเป้าดึงเข้ามา 2 แสนคนในปี 2565 แต่หากทำการบ้านได้ดี อาจมีเข้ามามากกว่านี้ในอนาคต ซึ่งมองไว้ที่ 5 แสนคนต่อปี โดยหลังจากเทศกาลถือศีลอด (รอมฎอน) จบลงประมาณ 1 เดือน ถือเป็นช่วงที่ชาวตะวันออกกลางออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นเดือนพฤษภาคมนี้
เราต้องพยายามทำให้ตลาดเหล่านี้เดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยให้ได้ จึงต้องเตรียมความพร้อมไว้ทุกด้าน ทั้งสายการบิน โรงแรม และบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยช่วงที่ผ่านมา แม้ความสัมพันธ์ยังไม่ได้เปิดแบบเป็นทางการ แต่ก็เห็นชาวซาอุฯ เข้ามาเที่ยวไทยประมาณ 2 หมื่นคนต่อปี เป็นกลุ่มที่นิยมเข้ามาตรวจสุขภาพในไทย จึงจะหาทางเจรจากับรัฐบาลซาอุฯ ให้ส่งข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐเข้าโปรแกรมตรวจสุขภาพในไทย รวมทั้งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มครอบครัวมาเที่ยวไทยด้วย