วันนี้(8 มีนาคม 2565) “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค”อัพเดทแผนก่อสร้าง“ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค”มูลค่า 4.6หมื่นล้านบาท ปลื้มผลตอบรับโครงการที่อยู่อาศัย ระดับอัลตร้าลักชัวรี่ “ดุสิต เรสซิเดนเซส” และ “ดุสิต พาร์คไซด์” ดีเกินคาด ด้วยยอดขาย 40% จากการตอบรับที่ดีของกลุ่มลูกค้าชาวไทยที่ยังมีกำลังซื้อสูง แม้ยังอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด เตรียมจัดโรดโชว์ไปยังประเทศเป้าหมายในปีนี้ พร้อมเผยความคืบหน้าการก่อสร้างเป็นไปตามแผน
นางสาวละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ผู้บริหารโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค”กล่าวว่า โครงการที่อยู่อาศัย “ดุสิต เรสซิเดนเซส” และ “ดุสิต พาร์คไซด์” ภายในโครงการ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” มียอดขายตั้งแต่เปิดตัวโครงการเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564 จนถึงปัจจุบันได้ถึง 40% ของพื้นที่ขายแล้ว
ถึงแม้เกือบตลอดช่วงเวลากว่า 18 เดือนที่ผ่านมาจะอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ตาม โครงการฯ ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าชาวไทย ที่ยังมีกำลังซื้อสูง(High-Net-Worth Individual: HNWI) และมองเห็นว่าลักษณะของโครงการฯ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายครบทุกด้าน
ปี 2564 ที่ผ่านมาโครงการที่อยู่อาศัยแห่งนี้ได้มุ่งให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มมีกำลังซื้อสูงชาวไทยเป็นหลักเพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดค่อนข้างน้อย ด้วยการตอบรับอย่างดีจากปีที่ผ่านมาผนวกกับข้อจำกัดของการเดินทางของชาวต่างชาติในช่วงปี 2564 บริษัทจึงได้ปรับเป้าหมายการขายจากลูกค้าชาวไทยเพิ่มขึ้นเป็น 65% และชาวต่างชาติ 35% จากเดิมที่เคยตั้งเป้าหมายชาวไทย 60% และชาวต่างชาติ 40%
ในด้านกลยุทธ์การตลาด นอกจากเราจะมีฐานลูกค้าที่มีความเชื่อมั่นในแบรนด์ดุสิตแล้ว เรายังต้องขอบคุณความร่วมมือและการช่วยเหลือจากพันธมิตรทางธุรกิจของเราหลายราย ทำให้เรามีโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้าตลาดบนที่เป็น end-user ได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี ทีมงานก็ยังคงให้ความสำคัญกับลูกค้าชาวต่างชาติ มีการจัดแผน roadshow ไปยังประเทศต่างๆ ที่ตั้งใจไว้ในปีนี้
โดยจะเริ่มจากประเทศในเอเชียและตะวันออกกลางซึ่งดุสิตมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง เชื่อว่าเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลาย เราจะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนี้ได้ไม่ยากนัก
นอกจากกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยสนับสนุนยอดขายที่น่าพอใจในช่วงที่ผ่านมา ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โครงการ “ดุสิต เรสซิเดนเซส” และ “ดุสิต พาร์คไซด์” ได้รับการตอบรับที่ดีคือลักษณะเด่นของโครงการ ซึ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งที่ตั้งของโครงการฯ ที่บริเวณสีลม – พระราม 4 ซึ่งเป็นทำเลติดอันดับราคาที่ดินสูงที่สุดในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสวนลุมพินี สวนสาธารณะขนาดใหญ่
การออกแบบทั้งสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในโดยดีไซน์เนอร์ระดับโลก โดยเป็นการผสมผสานคุณค่าดั้งเดิมของดุสิตธานีกับดีไซน์ทันสมัยในมาตรฐานสากลอย่างลงตัว และจุดขายที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งคือปรัชญาการให้บริการที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ “ดุสิตธานี” ทั้งการดูแลด้วยความอบอุ่น และให้บริการด้วยความใส่ใจ
ในส่วนของตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศไทยยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด โดยในปี2564 จำนวนโครงการเปิดใหม่ปรับลดลงจากปีก่อนหน้าถึง 17% (จากข้อมูลของ Agency for Real Estate Affairs - AREA) ขณะที่ยอดขายยังขยายตัวได้ใกล้เคียงกับปี 2563 โดยได้ปัจจัยหนุนหลักมาจากกลุ่มตลาดระดับบนที่ยังคงมีกำลังซื้อ และมาตรการภาครัฐช่วยกระตุ้นการซื้อขาย คาดว่าปี 2565 ตลาดจะยังไม่กลับมาเติบโตเหมือนช่วงก่อนโควิด เนื่องยังมีข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง รวมทั้งกำลังซื้อของลูกค้าที่คาดหวังการซื้อเพื่อลงทุน
สถานการณ์โควิดทำให้กลุ่มนักลงทุนหลายกลุ่มหายไปจากตลาด โดยเฉพาะลูกค้าที่คาดหวังการซื้อเพื่อลงทุน โดยการปล่อยเช่า คิดว่ากำลังซื้อของนักลงทุนกลุ่มนี้ยังมีอยู่ แต่คงยังไม่ได้กลับมาในระยะเวลาอันใกล้ ดังนั้นการให้ความสำคัญกับกลุ่มลูกค้าที่อยู่จริงจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับช่วงเวลานี้ โดยเฉพาะในโครงการระดับอัลตร้าลักชัวรี่ที่ลูกค้าต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน รวมไปถึงมีการเปรียบเทียบโครงการหลายๆ โครงการ จึงเป็นหน้าที่สำคัญของทีมเราที่จะสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจถึงคุณค่าและประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่โครงการของเราพร้อมจะมอบให้
โดยนอกเหนือจากโครงการที่อยู่อาศัย โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ยังประกอบไปด้วยโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ (Dusit Thani Bangkok Hotel) รูปโฉมใหม่ที่จะยังคงเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของอาคารเดิมพร้อมด้วยห้องพักจำนวน 259 ห้อง ศูนย์การค้า ภายใต้ชื่อ เซ็นทรัล พาร์ค (Central Park) ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 80,000 ตารางเมตร และอาคารสํานักงานเกรด A เซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศเซส (Central Park Offices) 40 ชั้น บนพื้นที่รวมทั้งหมด 90,000 ตารางเมตร
ความคืบหน้าการก่อสร้างพบว่าในเดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา วิมานสุริยา ได้ประกาศแต่งตั้งให้ บริษัท ฤทธา จำกัด เป็นผู้รับเหมาหลักของโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มีกำหนดเริ่มงานก่อสร้างอาคารโรงแรมตั้งแต่ช่วงต้นของปี 2565 นอกจากนี้ได้เริ่มมีการก่อสร้างฐานรากของอาคารสำนักงานอาคารที่พักอาศัยและอาคารศูนย์การค้า
ทั้งนี้คาดว่าโรงแรมดุสิตธานีโฉมใหม่ จะเป็นส่วนที่ก่อสร้างเสร็จก่อนเป็นส่วนแรกในช่วงต้นปี 2567 ในขณะที่อาคารสำนักงานและห้างสรรพสินค้า จะแล้วเสร็จกลางปี 2567 ส่วนโครงการที่พักอาศัยจะเป็นส่วนสุดท้าย คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2568