“เลิฟอันดามัน”ปรับกลยุทธฝ่าโควิด รับมือปี2566ธุรกิจฟื้นตัว
ก่อนโควิด-19 “เลิฟอันดามัน” มีลูกค้าใช้บริการ 1 แสนคน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ผ่านมาแม้ต่างชาติจะหายไป แต่ธุรกิจก็ยังคงเดินอยู่ได้ นายกร ลาภยิ่งยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เลิฟ ไอแลนด์ จำกัด ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวทางเรือในนาม “เลิฟอันดามัน” มีคำตอบ
ในปี2562 เลิฟอันดามัน มีลูกค้าใช้บริการอยู่ราว 1 แสนคน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็นสัดส่วน 75.92% เป็นคนไทย 24.08% ตั้งแต่โควิดเริ่มต้น นักท่องเที่ยวต่างชาติหายไป เลิฟอันดามัน ซึ่งดำเนินธุรกิจเรือนำเที่ยว และบริษัทนำเที่ยวทริปดำน้ำ ก็ได้รับผลกระทบโดยตรง ดังนั้นในปี2563 ต่อเนื่องถึงปี 2564 เลิฟอันดามันจึงมีจำนวนลูกค้าลดลงต่อเนื่อง
แม้จะเกิดโควิด-19 แต่ที่ผ่านมาเราไม่เคยหยุดให้บริการ ถ้ารัฐไม่สั่งปิด ซึ่งช่วงไหนรัฐสั่งให้หยุดเราก็หยุด เมื่อไหร่ให้เปิดเราก็เปิดให้บริการ และในทางกลับกันแม้จำนวนลูกค้าที่ใช้บริการจะยังคงลดลง หากเทียบกับก่อนเกิดโควิด แต่จุดหนึ่งเรากลับพบว่าแม้ลูกค้าต่างชาติจะหายไปกว่า 65% กลายเป็นว่าเรามีลูกค้าคนไทยเพิ่มมากขึ้นเกือบเท่าตัว
โดยจากก่อนโควิด เลิฟอันดามัน มีสัดส่วนลูกค้าคนไทย อยู่ที่ราว 24% ขยับมาอยู่ที่64 % ในปี63 และขยับมาเป็น 94% ในปี2564 ซึ่งน่าจะเป็นเพราะคนไทยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ จึงเลือกเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะการเดินทางเที่ยวทะเลและดำน้ำ
ในปี2564 ถือว่าเป็นปีที่ธุรกิจได้รับผลกระทบมาก เพราะเรามีการปิดประเทศไประยะหนึ่ง และแม้ในช่วงแรกไทยจะเปิดรับนักท่องเที่ยวในลักษณะแซนด์บ็อกซ์ โดยเฉพาะภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ แต่ด้วยยังมีข้อจำกัดที่กำหนดให้เดินทางออกจากภูเก็ตได้ในวันที่ 7 ซึ่งเลิฟอันดามัน มีเส้นทางให้บริการอยู่ในพื้นที่พังงา และกระบี่ จึงยังต้องให้นักท่องเที่ยวครบกำหนดก่อนจึงเดินทางได้ หรือถ้านักท่องเที่ยวอยู่ไม่ถึง 7 คืน โอกาสในการขายของเราก็ไม่มี
แต่พอรัฐมีนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบ Test and Go เมื่อปลายปีที่แล้วตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้าไทยก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด หากเทียบกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบแซนด์บ็อกซ์ แต่ทั้งนี้ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวไทยยังคงไม่เหมือนเดิม การดำเนินธุรกิจของเลิฟอันดามัน จึงต้องมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น เพื่อรอให้การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นการปรับนโยบายการให้บริการที่เป็นไปตามข้อกำหนดของรัฐ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการจ้างงาน ที่จะเป็นรูปแบบรายวันเพิ่มขึ้น สัญญาที่มีระยะเวลากำหนด เนื่องจากการให้บริการของเลิฟอันดามัน ยังไม่ได้สามารถให้บริการได้เท่าเดิม จากจำนวนเรือสปีดโบ๊ทที่ให้บริการอยู่ทั้งหมด 21 ลำต่อวัน เหลือบริการได้อยู่ที่ราว 10-15 ลำต่อวัน
สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวในปีนี้ แม้จะมีปัจจัยเรื่องการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธ์โอไมครอน เกิดขึ้น แต่เป็นการเดินทางท่องเที่ยวก็ยังคงมีอยู่ แตกต่างจากการเกิดโควิดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่ทุกครั้งที่มีการแพร่ระบาดระลอกใหม่เกิดขึ้น ลูกค้าจะชลอการเดินทางทันที แต่ในรอบนี้ส่วนใหญ่คนก็ยังเดินทางเที่ยวอยู่ มียกเลิกน้อยมากไม่ถึง 10% ซึ่งตราบใดที่สายการบินไม่หยุดให้บริการ ลูกค้าก็ยังคงเลือกที่จะเดินทางท่องเที่ยวอยู่ ซึ่งอาจะเป็นเพราะคนรู้จักโควิดมากขึ้นกว่าในอดีต รู้ว่าจะต้องอยู่ร่วมกับโควิดอย่างไร และมีการฉีดวัคซีนแล้ว รวมถึงพนักงานของเลิฟอันดามันเอง ก็มีการฉีดวัคซีนแล้ว100% มีมาตรฐานการให้บริการ SHA+
ดังนั้นที่ผ่านมาเลิฟอันดามัน ก็ยังมีนักท่องเที่ยวคนไทยเข้ามาใช้บริการในช่วงวันศุกร์-อาทิตย์เหมือนเดิม ส่วนนักท่องเที่ยวแบบ Test and Go ก็เข้ามาช่วยเติมเต็มวันช่วงวันธรรมดา ทำให้ตอนนี้เราสามารถให้บริการเรือได้ราว 15 ลำต่อวัน โดยสัดส่วนลูกค้าเป็นคนไทยราว 70% และนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 30% ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน สแกนดิเนเวีย ออสเตรเลีย
ส่วนเส้นทางการให้บริการของเลิฟอันดามัน โปรแกรมที่เราขายอยู่ในปัจจุบัน จะมีฮับอยู่ใน 2 จังหวัด คือ 1.เส้นทางจากภูเก็ต ไปยังหมู่เกาะสุรินทร์,หมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา และจากภูเก็ต ไปยังเกาะพีพี จ.กระบี่ ซึ่งเกาะเหล่านี้จะออกเดินเรือทุกวัน และเกาะไข่ ที่จะออกเฉพาะบางวัน 2. เส้นทางจากตรัง เดินทางไปยัง เกาะหลีเป๊ะ (ออกแฉพาะเสาร์-อาทิตย์) ,ทัวร์ 4 เกาะ จ.ตรัง,เกาะรอก จ.กระบี่ ซึ่งเส้นทางที่ได้รับความนิยมจะเป็นเส้นทางสิมิลันและสุรินทร์ รองลงมาจะเป็นเกาะพีพี ส่วนเส้นทางตรัง เพิ่งเปิดให้บริการตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเคยเปิดเมื่อเดือนเม.ย.ปี64 และถูกปิดไปจากโควิดรอบใหม่ก่อนหน้านี้
ขณะที่เส้นทางระนอง ที่จะต่อไปเที่ยวเกาะต่างๆในเมียนมา อย่าง เกาะเซ-ลาวา ,เกาะนาวโอพี ,หัวใจมรกต,เกาะเชือก ในขณะนี้เลิฟอันดามัน ยังไม่ได้กลับมาเปิดให้บริการ เนื่องจากเมียนมาร์ ยังปิดประเทศอยู่
จุดเด่นที่ทำให้เลิฟอันดามัน ยังคงอยู่ในตลาดนี้ได้มาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว เป็นเพราะรูปแบบการให้บริการที่เราเน้นการให้บริการที่มีคุณภาพ อาทิ วันเดย์ทริป ทานอาหารบนเกาะ ก็จะทานในแบบบุฟเฟ่ต์มีอาหารทะเล แตกต่างจากที่อื่นที่จะแจกแบบข้าวกล่อง ทำให้ราคาขายของเลิฟอันดามัน จึงจะสูงกว่าคู่แข่ง 10-20% เพราะต้นทุนที่สูงกว่า แต่ด้วยคุณภาพที่เรามีก็มีลูกค้าที่ต้องการบริการที่ดีเข้ามาใช้บริการ
นอกจากนี้เลิฟอันดามันยังเน้นทำงานร่วมกับพันธมิตรในการร่วมกันขาย ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับโรงแรมมากกว่า 20 แห่งในภูเก็ต พังงา ทำโปรโมชั่นร่วมกัน รวมไปถึงร่วมมือกับสายการบิน และเคทีซี ทำแพ็คเกจร่วมกัน เป็นต้น
ส่วนธุรกิจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้เมื่อไหร่ ผมมองว่าน่าจะไม่เกิน 2 ปี โดยปี2566 น่าจะกลับมาได้ เพราะจีนน่าจะเริ่มทยอยกลับมา และในขณะนี้หลายประเทศเริ่มประกาศยุติมาตรการต่างๆในการคุมเข้มโควิด ถ้าเปิดให้เดินทางก็มั่นใจว่าไทยยังคงเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ด้านการท่องเที่ยวอยู่ และด้วยการทำตลาดของเราที่มีมาร์เก็ตแชร์หลากหลายไม่ได้พึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง ก็ทำให้เรามีนักท่องเที่ยวจากหลายชาติ และรอบนี้น่าจะมีนักท่องเที่ยวจากซาอุดีอาระเบียเพิ่มขึ้นมา หลังจากมีการเปิดความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศกลับขึ้นมาอีกครั้งด้วย