"ฟูจิตสึ" ดันธุรกิจตลาดแอร์เชิงพาณิชย์ ตั้งเป้าลดก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์

11 เม.ย. 2565 | 11:30 น.
อัปเดตล่าสุด :11 เม.ย. 2565 | 18:38 น.

“ฟูจิตสึ” ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 68 ชูกลยุทธ์ตลาดแอร์ในไทย รุกสินค้าประหยัดพลังงานรักษาสิ่งแวดล้อม

มร.ทาเคชิ อุจิชิบะ (Mr.Takeshi Uchishiba) ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท ฟูจิตสึ เจเนอรัล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศภายใต้แบรนด์ “ฟูจิตสึ” (Fujitsu) กล่าวว่า ถึงแม้ว่าโดยภาพรวมธุรกิจเครื่องปรับอากาศจะได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจในปีนี้ แต่ยอดขายของ ฟูจิตสึ ก็สามารถเติบโตได้ ส่วนหนึ่งมาจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ในหลายกลุ่ม รวมถึงการเปิดตัวเครื่องปรับอากาศ แบรนด์เจเนอรัล (General) ในปีที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย

 

 

 

"ขอขอบคุณตัวแทนจำหน่ายและลูกค้าทุกท่านที่ให้ความเชื่อมั่นในสินค้าของเรา ในปี 2565 นี้ เราเชื่อว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น เนื่องจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว อันเนื่องมาจากการเปิดประเทศ และตลาดเครื่องปรับอากาศจะกลับสู่วิถีการเติบโตอย่างมั่นคงดังเดิม โดย ฟูจิตสึ ตั้งเป้าที่จะเติบโตประมาณ 30% เน้นเครื่องปรับอากาศรุ่นอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ที่มีประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานสูงเป็นหลัก รวมถึงเพิ่มยอดขายเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ในกลุ่ม VRF ด้วย"

 

 

นอกจากนี้ “ฟูจิตสึ” ได้เปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่หลายรุ่น เช่น เครื่องปรับอากาศแบบติดผนังประสิทธิภาพสูงระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ขนาด 30,000 BTU และ 36,000 BTU ซึ่งได้ฉลากเบอร์ 5 สองดาว แบบแขวนฝ้า (Ceiling) แบบฝังฝ้าสี่ทิศทาง (Cassette) และแบบแอร์ต่อท่อลมได้ (Duct) ซึ่งเป็นรุ่นและมาตรฐานเดียวกับที่ส่งออกยุโรป โดยเน้นความเงียบ ความทนทานและประสิทธิภาพสูง

 

 

 ทางบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่นได้มีนโยบายสนับสนุนเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือศูนย์ภายในปี 2568 ซึ่งนโยบายนี้ถูกนำไปเชื่อมโยงอยู่ในทุกกิจกรรมของบริษัทตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง การใช้พลังงานทางเลือกทดแทน รวมถึงการลดกิจกรรมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อย่างเช่น การสนับสนุนการขนส่งโดยใช้ EV

\"ฟูจิตสึ\" ดันธุรกิจตลาดแอร์เชิงพาณิชย์ ตั้งเป้าลดก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์

ที่ผ่านมา “ฟูจิตสึ” เริ่มต้นธุรกิจเครื่องปรับอากาศในปี 2482 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 86 ปี ฟูจิตสึเป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในประเทศญี่ปุ่น ยังมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับต้นๆ ในทวีปยุโรป อเมริกา โอเชียเนีย และตะวันออกกลาง โดยเครื่องปรับอากาศฟูจิตสึเป็นแบรนด์ญี่ปุ่นที่ผลิตตามมาตรฐานขั้นสูง มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ได้รับสิทธิบัตรด้านคุณสมบัติต่างๆ มากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก อาทิ เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน เทคโนโลยีการไหลเวียนของอากาศที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด เทคโนโลยีด้านการปรับอากาศภายในห้อง ระบบสื่อสารเพื่อป้องกันอัคคีภัยและภัยพิบัติ ระบบกรองอากาศที่สามารถทำความสะอาดตนเอง เป็นต้น

 

 

 ขณะเดียวกันฟูจิตสึเป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศผู้นำตลาด 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น ขณะเดียวกันยังถือเป็นแบรนด์อันดับ 1-2 ในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรป และตะวันออกกลาง ฟูจิตสึ เจเนอรัล ได้ลงทุนในประเทศไทยเป็นฐานการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกตั้งแต่ปี 2534 เป็นเวลากว่า 30 ปี

 

 

 นายสินเมธ อิ่มเอม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ฟูจิตสึ เจเนอรัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดเครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัยในปี 2564 ที่ผ่านมา มีมูลค่าตลาดประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท จำนวน 1.6 ล้านเครื่อง ซึ่งตลาดเครื่องปรับอากาศหดตัวลงประมาณ 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลจากเศรษฐกิจและการระบาดของ Covid 19

 

\"ฟูจิตสึ\" ดันธุรกิจตลาดแอร์เชิงพาณิชย์ ตั้งเป้าลดก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์

ทั้งนี้ฟูจิตสึมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 2% คิดเป็น 450 ล้านบาท มีการเติบโตจากปีก่อนประมาณ 35% ในปีนี้ เนื่องจากการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงานและความตระหนักในการรักษาสิ่งแวดล้อม ฟูจิตสึ มีการปรับแผนการตลาด โดยเน้นที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นหลัก โดยจะเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าในกลุ่มอินเวอร์เตอร์ (Inverter) จากเดิมสัดส่วน 45% เป็น 70% ในปีนี้ และเพิ่มยอดขายในกลุ่มสินค้าเบอร์ 5 สามดาวให้มากขึ้น

“เรามีการเปิดตัวสินค้าใหม่ 29 รุ่น โดย 24 รุ่นเป็นระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) รุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูง นอกจากเรื่องความเย็น ความทนทาน และนวัตกรรมใหม่แล้ว ผู้บริโภคปัจจุบันเน้นเรื่องการประหยัดไฟฟ้า เนื่องจากแนวโน้มราคาพลังงานที่ยังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของการสร้างการรับรู้แบรนด์ เรามีแผนที่เน้นใช้ Sport Marketing จากการที่ “ฟูจิตสึ” (Fujitsu) เป็นสปอนเซอร์หลักให้กับทีมฟุตบอลคาวาซากิ ฟรอนตาเล (Kawasaki Frontale) แชมป์เจลีก (J-League) และมีนักฟุตบอลขวัญใจชาวไทย เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นผู้เล่นหลัก ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยได้รับรู้แบรนด์อย่างต่อเนื่อง”

 

 

นอกจากนี้เรามีแผนที่จะรุกตลาดเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ระบบ VRF โดยเจาะกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และผู้รับเหมางานโครงการ ด้วยการนำเสนอรุ่น VIII Tropical ผลิตที่โรงงานประเทศไทยซึ่งเน้นเครื่องปรับอากาศประสิทธิภาพสูง ความทนทานและทนการกัดกร่อนได้ดี ได้รับการยอมรับจากประเทศกลุ่มตะวันออกกลางที่อากาศร้อนจัดและสภาพแวดล้อมสุดขั้วได้

 

\"ฟูจิตสึ\" ดันธุรกิจตลาดแอร์เชิงพาณิชย์ ตั้งเป้าลดก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์

 

ทั้งนี้ปัจจุบัน บริษัทฯ ผลิตเครื่องปรับอากาศสำหรับที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก จำนวน 7 ซีรีส์ รวม 42 โมเดล ขนาดตั้งแต่ 9,000-54,000 BTU 1. เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง โดยปีนี้เน้นที่ระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ให้ค่าประหยัดพลังงานสูงกว่าเบอร์ 5 ระดับ 3 ดาว สามารถทำงานในสภาวะอุณหภูมิภายนอกสูงถึง 52 องศาเซลเซียส (ในรุ่น iCool) รับประกันคุณภาพอายุการใช้งานของคอมเพรสเซอร์แอร์นาน 10 ปี และอะไหล่ทุกชิ้น 3 ปี 2. เครื่องปรับอากาศสำหรับเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก แบบแขวนฝ้า (Ceiling) แบบฝังฝ้าสี่ทิศทาง (Cassette) และแบบแอร์ต่อท่อลมได้ (Duct) ขนาดตั้งแต่ 22,000-90,000 BTU ให้ค่าประหยัดพลังงานสูงถึง เบอร์ 5 ระดับ 2 ดาว

 

 

  3. เครื่องปรับอากาศรวมศูนย์ขนาดเล็ก รุ่น AIRSTAGE J-IV ขนาดตั้งแต่ 4-18 แรงม้า (41,200-171,000 BTU) เหมาะสำหรับธุรกิจเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก-กลาง มีจุดเด่นด้านการติดตั้งที่ใช้พื้นที่น้อย เดินระยะท่อได้ไกลสูงสุดถึง 180 เมตร ให้ค่าประหยัดพลังงานสูงสุด COP=5.01 4. เครื่องปรับอากาศรวมศูนย์ขนาดกลาง รุ่น AIRSTAGE V-lll Tropical ขนาดตั้งแต่ 8-54 แรงม้า (76,400-513,000 BTU) สามารถทำงานในสภาวะอุณหภูมิภายนอกสูงถึง 52 องศาเซลเซียส และมาตรฐานการป้องกันการกัดกร่อนขั้นสูง