ปุ้มปุ้ย จบศึกสายเลือด“โตทับเที่ยง” สุธรรม เตรียมตั้งโต๊ะแถลง 28 เม.ย.นี้

26 เม.ย. 2565 | 08:58 น.
อัปเดตล่าสุด :26 เม.ย. 2565 | 23:52 น.

"ปุ้มปุ้ย"จบศึกสายเลือด“โตทับเที่ยง” สุธรรม พร้อมนำทีมทนายตั้งโต๊ะแถลง ปิดคดี ฮุบที่ดินกงสี หลังศาลฎีกาพิพากษายืนตามคําพิพากษาศาลอุทธรณ์ สั่งสุรินทร์ คืนหุ้น-ที่ดินให้พี่น้อง 28 เมษายนนี้

เป็นอีกหนึ่งศึกสายเลือดที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชนสำหรับศึกฮุบสมบัติของพี่น้องตระกูล “โตทับเที่ยง” อาณาจักรปลากระป๋องปุ้มปุ้ย หลังจากยืดเยื้อมานานกว่า 4 ปีล่าสุดคดีถึงที่สุด โดยศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามคําพิพากษาศาลอุทธรณ์ พิพากษาให้จําเลย โอนที่ดินให้แก่พี่น้องในตระกูลโตทับเที่ยงทั้ง 10 คน คนละ 1 ส่วน

สุธรรม โตทับเที่ยง

ทั้งนี้ สุธรรม โตทับเที่ยงโจทย์ ได้ส่งหนังสือถึงสื่อมวลชนเตรียมแถลงข่าวเกี่ยวกับผลคดีพร้อมทีมทนาย ในวันที่ 28 เมษายนนี้ โดยมีใจความว่า ตามที่ คดีกงสีหรือธุรกิจของครอบครัวตระกูลโตทับเที่ยง โดยการนําของนายสุธรรม โตทับเที่ยง กับพวก รวม 9คน ยื่นฟ้องนายสุรินทร์ โตทับเที่ยง กับพวก รวม 5 คน ต่อศาลแพ่งธนบุรี เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2559 ข้อหา กรรมสิทธิ์รวม เรียกทรัพย์คืน ขอแบ่งทรัพย์ (กงสี)

 

เมื่อวันที่ 20มีนาคม 2561  ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้จําเลยทั้ง 5 คน ที่ถือกรรมสิทธิ์ในหุ้นไว้แทน โอน หุ้นในบริษัท รวม19 บริษัทให้แก่โจทก์ทั้ง4 คน และจําเลยที่ 1 คนละ 1 ส่วนใน 10 ส่วน ของหุ้นในแต่ละ บริษัท และให้โอนที่ดินที่จําเลยทั้ง 5 คน ถือกรรมสิทธิ์ไว้แทนให้แก่พี่น้องในตระกูลโตทับเที่ยงทั้ง 10 คน คนละ 1 ส่วนใน 10 ส่วน

สุรินทร์ โตทับเที่ยง

ต่อมาเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2562 ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาแก้ไขบางส่วนเกี่ยวกับที่ดินของบริษัทกงสี นอกจากที่แก้ไขให้เป็นไปตามคําพิพากษาศาลชั้นต้น หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 ศาลฎีกา ได้พิพากษายืนตามคําพิพากษาศาลอุทธรณ์

 

 

อนึ่ง เนื่องจากคดีนี้เป็นที่สนใจแก่สื่อมวลชนหลายแขนงที่ติดตามข่าว ประกอบกับคดีกงสีหรือธุรกิจของ ตระกูลโตทับเที่ยงเป็นคดีที่สาธารณชนให้ความสนใจเช่นกัน เพราะกงสีของตระกูลโตทับเที่ยงมีธุรกิจหลายอย่าง

 

ดังนั้น เมื่อคดีมีคําพิพากษาศาลฎีกา ถือว่าคดีถึงที่สุด โจทก์ทั้ง 4 คน จึงขอชี้แจงให้สื่อมวลชนทราบ เพื่อนําเสนอข่าวเกี่ยวกับผลคดีเป็นไปตามคําพิพากษาทั้งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา โดยสรุปเพื่อให้เกิด ความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน ในการแถลงข่าวครั้งนี้ มีโจทก์ทั้ง 9 คน และทีมงานทนายความร่วมแถลงข่าว 

 

จึงขอเรียนเชิญสื่อแต่ละท่านที่สนใจในคดีนี้มาร่วมฟังการแถลงข่าวเกี่ยวกับผลคดี โดยจะมีการแถลงข่าว ในวันที่ 28 เมษายน 2565 เวลา 10.00-12.00 น. ณ โรงแรมอิสตินแกรนด์ สาทร


คดีถึงที่สิ้นสุด  "สุธรรม" เตรียมตั้งโต๊ะแถลงจบศึกสายเลือด  “โตทับเที่ยง”
 

สำหรับจุดเริ่มต้นคดีใหญ่ของพี่น้อง “โตทับเที่ยง” ต้องย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคม 2558 เมื่อ "นายสลิล โตทับเที่ยง" กรรมการบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักกันดีในนาม ปลากระป๋อง ‘ปุ้มปุ้ย’ พร้อมกรรมการบริษัท และทีมทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)  เมื่อ 7 ต.ค.58 เพื่อให้ตรวจสอบหาตัวผู้กระทำผิด 

 

กรณีมีการปลอมแปลงแก้ไขเอกสารบางส่วน คาดว่าจะเป็นการกระทำเพื่อต้องการยักยอกเงิน ของ บมจ. ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล สร้างความเสียหายมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ในช่วงเวลาที่นายสลิล ยังดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แต่ไม่เคยรับรู้และไม่เคยเห็นเอกสารดังกล่าวแต่อย่างใด

 

ในครั้งนั้น "นายสุธรรม โตทับเที่ยง" พี่ใหญ่ของตระกูลได้ออกมาแถลงในฐานะตัวแทนพี่น้อง 9 คน สกุลโตทับเที่ยง ไม่ให้ “นายสุรินทร์ โตทับเที่ยง” ใช้นามสกุล "โตทับเที่ยง" โดยอ้างว่ากระทำการที่เป็นปฏิปักษ์กับพี่น้อง โดยปลดพี่น้องในตระกูลทุกคนออกจากการเป็นกรรมการของ บริษัท กว้างโฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทกงสีของพี่น้อง ที่ถือหุ้นในบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหาร กว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) หรือ ‘ปุ้มปุ้ย’ เเมื่อ 21 มิ.ย.57

 

ต่อมา "นายสุรินทร์ โตทับเที่ยง" ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ระบุว่า ความขัดแย้งของพี่น้อง เป็นผลมาจาก  บมจ.ผลิตภัณฑ์กว้างไพศาล ไม่มีกำไรอย่างต่อเนื่องมานับสิบปี และอาจจะถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 2558 ซึ่งจะเป็นความเสียหายต่อผู้ถือหุ้นทั้งรายใหญ่ รายย่อย อีกทั้งฝ่ายบริหารชุดเดิมให้การสนับสนุนธุรกรรมกับบริษัทการค้าแห่งหนึ่งซึ่งจัดตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียนชำระแล้วเพียง 600,000 บาท นำธุรกรรมการค้าเงินสด บุคลากร และอุปกรณ์ รถยนต์ฝ่ายขายของปุ้มปุ้ยไปใช้ดำเนินการ สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดทางกฎหมายและก่อให้เกิดความเสียหาย คณะกรรมการบริษัทฯ เสียงส่วนใหญ่ มีมติให้หยุดธุรกรรมที่มีปัญหาและเปลี่ยนแปลงฝ่ายบริหารที่เกี่ยวข้อง ต้องรอดูผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง

 

ต่อมา21 มี.ค.2561 ศาลแพ่งธนบุรีนัดฟังคำพิพากษาคดีศึกสายเลือดกงสีพี่น้องตระกูลโตทับเที่ยง ครอบครัวธุรกิจผู้กว้างขวางในจังหวัดตรัง มีธุรกิจที่คนทั้งประเทศรู้จักคือ ปลากระป๋องปุ้มปุ้ย โดยคดีนี้ สุธรรม โตทับเที่ยง (โจทก์) พี่ชายคนโตยื่นฟ้อง สุรินทร์ โตทับเที่ยง (จำเลย) น้องชายคนรอง ที่ร่วมพัฒนาธุรกิจมาด้วยกัน และพวกรวม 6 คน ซึ่งปัจจุบันถือแทนสินทรัพย์ของครอบครัวประกอบด้วย หุ้นใน 21 บริษัทและที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของกงสี

 

ศาลแพ่งธนบุรีมีพิพากษาให้ สุรินทร์ โตทับเที่ยง ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 และพวกนำแบ่งให้โจทก์ทั้ง 9 และให้จำเลย 1 ส่วน นั่นคือแทนที่ฝั่งนายสุรินทร์จะถือแทนสินทรัพย์ส่วนใหญ่ไว้ จะต้องเฉลี่ยแบ่งคืนให้กับพี่น้องทั้งสองฝั่งรวม 10 คนในกงสี โดยหุ้นของทั้ง 21 บริษัทประกอบด้วย บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมทั้งกลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจอาหาร ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจอื่นๆ ของตระกูล  นอกจากนี้ยังมีที่ดินจำนวน 31 แปลง ซึ่งจะต้องแบ่งคืนกลับเข้ากงสีด้วย