“คนธรรมดา” ไวรัลพลังบวก เมื่อแบรนด์ดังยังเติมเชื้อไฟ ทำให้...ได้ไปต่อ

กลายเป็นไวรัลแห่งปีในช่วงข้ามคืน สำหรับ “ถึงคุณ.. คนธรรมดา”  หนึ่งในแคมเปญการตลาด “ธรรมดาที่ทำมาดี” ของห่านคู่ แต่ความไม่ธรรมดาอยู่ที่ว่า กระแสไวรัลยังมีต่อเนื่องนานนับสัปดาห์ สร้างความประหลาดใจให้กับใครหลายคน และยิ่งนานวัน ก็ยิ่งมีแบรนด์ดัง คนดัง ขอมีส่วนร่วมเป็นหนึ่งใน “คนธรรมดา” ด้วย

 

จากจุดเริ่มต้นที่ “ห่านคู่”  เปิดตัวแคมเปญการตลาด “ธรรมดาที่ทำมาดี” เพราะต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์ของ “ห่านคู่” ที่ใครในโลกหล้าก็รู้ว่า เป็นเพียงเสื้อยืดธรรมดา สีขาว ไม่มีลวดลายใดๆ แต่ภายใต้ความธรรมดานั้น กลับแฝงไว้คุณภาพ ที่ถักทอมาอย่างดี และถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น

และเพื่อต้องการบอกเล่าความธรรมดานี้เอง แคมเปญจึงเลือกการสื่อสร้างความเข้าใจและเข้าถึงทุกคน (ที่เป็นลูกค้าในปัจจุบัน และอาจจะเป็นลูกค้าในอนาคต) ด้วยจดหมายเปิดผนึกที่ปล่อยสู่โลกโซเชียลผ่านทางเพจเฟซบุ๊ค ด้วยข้อความง่ายๆ สั้นๆ แต่โดนใจเพื่อสื่อสารไปยัง “คนธรรมดา”

 

“ถึง คุณ...คนธรรมดา

เรารู้ว่าคุณเหนื่อยกับการใช้ชีวิตในฐานะคนธรรมดา ที่ไม่โดดเด่นหรือพิเศษแบบคนอื่นๆ ถึงแม้จะตั้งใจใช้ชีวิตแค่ไหน ชีวิตก็อาจจะสู้กับอยู่เสมอ

ห่านคู่อยากบอกว่า ถ้าคุณรู้สึกเหนื่อย เราจะเป็นความสบายใจให้กับคุณ อยู่เคียงคู่คุณในช่วงเวลาธรรมดาของชีวิต เราอยู่ง่าย อยู่ทน ไม่ต้องดูแลมากมาย และจะคอยเป็นพื้นที่ที่คุณสามารถเป็นตัวเองได้เสมอ ขอเพียงแค่คุณอย่ารู้สึกผิดกับการเป็นคนธรรมดาก็พอ

เพราะเราเชื่อว่าในความธรรมดา คุณได้ทำมาดีในแบบของตัวเองแล้ว

ห่านคู่

เสื้อยืดธรรมดา

 

เรียกได้ว่า ใครได้อ่านข้อความดี ย่อมรู้สึกดีต่อใจ

 

ด้วยใจความเรียบง่าย แต่เข้าถึง และจี้ปมในใจ “คนธรรมดา” ทุกคน  ซึ่งผิวเผินดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่แน่นอนว่าเมื่อเป็นกิมมิคการตลาด ย่อมมีพันธมิตรที่พร้อมร่วมสานต่อ ซึ่งไม่ใช่ใคร พันธมิตรที่กอดคอกันมา และร่วมกันรังสรรค์เพื่อต่อยอดซึ่งกันและกัน

 

การตอบกลับของ “นันยาง” สร้างความฮือฮาทันที เพราะหากจะตอบแบบธรรมดา เหมือนเขียนจดหมายหาเพื่อนรัก ก็อาจไม่สะดุดตาเท่าไร แต่การตอกย้ำความเป็นคนธรรมดา ก็ต้องแฝงความดราม่าแบบน่ารักๆ เนียนๆ มาช่วยเติมเชื้อไฟ ให้จุดติดเร็วขึ้น (ซึ่งการครีเอทแบบนี้ทำยากพอควร)

การรังสรรค์ ความเป็น “คนธรรมดา” ที่แฝง Positioning คงอัตลักษณ์ของแบรนด์ตนไว้ จึงเป็นสิ่งจำเป็น จึงเห็นความพยายามจากผู้ร่วมสร้างตัวตนความเป็น “คนธรรมดา” มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ถ้วยทอง ยาหม่องธรรมดาที่อยู่มา 72 ปี, KFC ไก่ทอดธรรมดา จากผู้พันแซนเดอร์หน้ามน, เซเว่น อีเลฟเว่น ศูนย์รวมความธรรมดาแต่จริงใจ

แม้แต่หน่วยงานรัฐอย่าง อย. หน่วยงานธรรมดา ที่ยืนหยัดกำกับดูแลผลิตภัณฑ์สุขภาพ ก็มา , วิทยุการบินแห่งประเทศไทย, ททท. รวมไปถึงรมต. ท่องเที่ยวและกีฬา “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” ก็มา

 

นอกจากนี้ยังมีท็อปส์ ที่ออกมาสัญญาว่าจะดีที่สุดเพื่อคุณ , ซิงเกอร์ คนง่ายๆธรรมดาที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 133 ปี , สเวนเซ่นส์  .... ยังไม่หมด

 

เพราะยังมีชายสี่บะหมี่เกี๊ยว ร้านบะหมี่เกี๊ยวธรรมดา, โลตัส ห้างธรรมดาเพื่อลูกค้าธรรมดาแต่แสนพิเศษ, ฟาร์มเฮ้าส์ ที่พร้อมจะเป็นกองเสบียงในวันธรรมดาและไม่ธรรมดา, เสือร้องไห้ เพื่อกินข้าวธรรมดา , BBQ Plaza จาก GON คนธรรมดา , ไปรษณีย์ไทย คนส่งธรรมดา

 

งานนี้อาจไม่ใช่แค่เกาะกระแส “คนธรรมดา” แต่ยังเป็นการชิงเหลี่ยม นำเสนอความน่ารัก เพื่อให้ถูกแชร์ต่อ ในโลกออนไลน์ด้วย

 

“รติ พันธุ์ทวี” นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย บอกว่า แคมเปญ “คนธรรมดา” ที่กำลังเป็นกระแสในโลกธุรกิจนี้ ถือเป็นการตลาดในโลกใหม่ ที่ตรงไป ตรงมามากขึ้น ไม่เสแสร้ง ไม่ต้องปรุงแต่ ทำให้โดนใจคนรุ่นใหม่ คนยุคปัจจุบัน ที่ไม่ต้องการการปรุงแต่งให้วิลิศมาหลา

 

“ในมุมของวิธีการโฆษณา คนสมัยใหม่ คนยุคปัจจุบัน ต้องการแบบตรงไปตรงมา ไม่เสแสร้ง เราเห็นเรื่องราวแบบนี้ค่อนข้างเยอะว่า เขาไม่ต้องปรุงแต่ให้วิลิศมาหลา ปรุงแต่งเยอะๆ เขาไม่ต้องการ”

กรณีศึกษานี้ ในอีกมุมมอง ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า ไวรัล สามาถเกิดขึ้นได้ ไวรัลดีๆ เนื้อหาดีๆ  ที่จะส่งต่อเกิดขึ้นได้ และไปอย่างรวดเร็ว จากห่านคู่กับนันยาง ก็ถูกส่งต่อไปมากมายนับสิบ นั่นแสดงว่า การกระจายในสื่อออนไลน์ รวดเร็วมาก และไม่ได้การพูดถึง หรือเป็นไวรัลเฉพาะข้อความที่เป็นลบอย่างเดียว ข้อความที่เป็นบวกก็เป็นไวรัลได้

 

“ผลงานนี้เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า ที่บอกว่า คนไม่ชอบแต่เรื่องลบๆ หากเป็นมุมบวก ก็พร้อมที่จะมีส่วนร่วมเหมือนกัน”

 

แต่หากถามว่า หลังความสำเร็จของ “คนธรรมดา” แคมเปญนี้ หากใครรังสรรค์แคมเปญพลังบวกใหม่ๆ ขึ้นมา จะประสบความสำเร็จเช่นนี้หรือไม่

 

“รติ” บอกว่า ทุกวันนี้คนมีความคิดดีๆ กันเยอะมาก แต่จะให้ซัคเซสแบบนี้คงยาก  บางทีตั้งใจก็ไม่ซัคเซส เพราะมีหลายองค์ประกอบ ถ้าใครอยากจะทำก็ทำได้ แต่ไม่มีอะไรการันตีว่าจะซัคเซสทุกตัว

 

แต่กระแสนี้ ทำให้เห็นได้ชัด นี่คืออิทธิพลของอีเล็คทรอนิกส์ แพลตฟอร์ม นี่คืออิทธิพลของโลกโซเชียล ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าในโลโซเชียลก็มีทั้งมุมที่ดีและไม่ดี  ซึ่งจะเด่น หรือจะดัง อยู่ที่ว่าจุดติดหรือไม่ติด”  

 

แต่ไม่ว่าจะจุดติดหรือไม่ติด แต่ชั่วโมงนี้บอกได้เลยว่า ต้องมีก๊อก 2 ก๊อก 3 ตามมา

เพราะล่าสุด “จักรพล จันทวิมล” บอสใหญ่ค่ายนันยาง ที่ก่อนหน้าจับมือ collaboration กับ “ห่านคู่” เปิดตัวคอลเลคชั่น “ลิมิเต็ด อิดิชั่น”  ได้โพสต์ผ่านหน้าเพจ Chakrapol Jax  Chandavimol ระบุว่า พรุ่งนี้ (11 พ.ค. พบกับ “เบื้องหลังคนธรรมดา” ในมุมของผมที่เพจ Simple Thoughts  by Chakrapol (เพจธรรมดาที่ไม่มีคนตาม)  

 

ส่วนจะมีอะไรเซอร์ไพร์ส เราๆ ท่านๆ ก็คงต้องติดตามไปพร้อมๆ กัน