AWC เผยผลประกอบการไตรมาส1ปี2565 กำไรพุ่ง200%รับเปิดประเทศ

11 พ.ค. 2565 | 07:55 น.
อัปเดตล่าสุด :11 พ.ค. 2565 | 15:04 น.

AWC ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี2565 ปลื้มกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 200% มั่นใจกลุ่มธุรกิจในเครือแข็งแกร่งและสามารถกลับมาแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพในปี 2565 รับมาตรการเปิดประเทศของรัฐบาล

วันนี้(วันที่ 11 พฤษภาคม 2565)  นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 มีรายได้รวมตามงบการเงิน 2,782 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 151 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นกำไรสุทธิตามงบการเงิน 645 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 200 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  

 

วัลลภา ไตรโสรัส

โดยผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 1/2565 ของบริษัทมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา แม้ว่าจะยังคงมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนระดับที่สูงในช่วงต้นปี แต่ได้รับผลกระทบน้อยกว่าการแพร่ระบาดครั้งก่อนหน้านี้

 

เนื่องจากสายพันธุ์ดังกล่าวมีอาการที่น้อยกว่าและประชาชนได้รับวัคซีนในอัตราที่สูง จึงทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ประกอบกับผลดีจากนโยบายการเปิดประเทศและการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศที่มีแนวโน้มพัฒนาไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้นนับตั้งแต่เกิดการระบาด

 

ส่งผลให้ทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัทมีการฟื้นตัวและเติบโตขึ้นอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับกลยุทธ์การดำเนินงานตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างทันท่วงที และสร้างความเชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถฟื้นตัวอย่างรวดเร็วภายในปีนี้และก้าวกระโดดต่อไปในอนาคต 

“ผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2565 ถือเป็นไตรมาสแรกของปีที่มีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มต้นการแพร่ระบาดของ COVID-19 ชี้ให้เห็นสัญญาณบวกของเศรษฐกิจในภาพรวมที่กลับมาฟื้นตัว ซึ่งทาง AWC มั่นใจว่ากลุ่มธุรกิจต่างๆ ในเครือจะสามารถกลับมาแข่งขันและดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งปี 2565 นี้” นางวัลลภา กล่าว

 

AWC เผยผลประกอบการไตรมาส1ปี2565 กำไรพุ่ง200%รับเปิดประเทศ

 

โดยบริษัทมีกำไรสุทธิจากผลประกอบการโดยไม่รวมมูลค่ายุติธรรม เพิ่มขึ้นร้อยละ 51.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการดำเนินงานของทรัพย์สินคุณภาพของบริษัทที่ตอบรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวหลังเริ่มมีการเปิดประเทศ

 

ทั้งนี้รายได้รวมของบริษัทในไตรมาสดังกล่าว เพิ่มขึ้นจากอัตราการเข้าพักในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการในตลาด High-to-Luxury ที่ถือเป็นฐานลูกค้าหลักของบริษัทมีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน โดยพบว่าโรงแรมของกลุ่มบริษัทมีค่าผลการดำเนินงานเทียบกับโรงแรมคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยโรงแรมที่มีค่า RGI (Revenue Generating Index) สูงสุดอยู่ที่ 245.9 

 

รวมถึงการกลับมาฟื้นตัวของกลุ่มโรงแรมสำหรับประชุมสัมมนา (MICE) ซึ่งได้รับอานิสงส์จากนโยบายการเปิดประเทศ และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของทางภาครัฐ  ส่วนในกลุ่มธุรกิจศูนย์การค้าสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ เนื่องจากธุรกิจเริ่มฟื้นกลับตัว ทำให้มีจำนวนของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในช่วงต้นปีมีหลากหลายเทศกาลสำคัญที่ช่วยหนุนให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น

 

AWC เผยผลประกอบการไตรมาส1ปี2565 กำไรพุ่ง200%รับเปิดประเทศ

 

ในขณะที่กลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงาน มีจำนวนผู้เช่ารายใหม่เข้ามาทำสัญญาการเช่าพื้นที่สำนักงาน บนทำเลที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความเชื่อมั่นในมาตรฐานการให้บริการ การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ 

 

รวมถึงปัจจัยด้านมาตรการกำกับดูแลสุขอนามัยและความปลอดภัยของอาคารสำนักงานเกรด A และ A- ของทางบริษัทที่ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ตอกย้ำถึงกลยุทธ์ในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตทรัพย์สินของบริษัท (Well-Diversified) ซึ่งทำให้ AWC สามารถลดความผันผวนของระดับรายได้ และยังคงมีผลการดำเนินงานที่มั่นคงและแข็งแรง 


นอกจากนี้บริษัทมีโปรแกรม AWC Infinite Lifestyle เชื่อมโยงการให้บริการของทุกกลุ่มธุรกิจผ่านทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้างประสบการณ์การและความ    พึงพอใจสูงสุดให้แก่ผู้มาใช้บริการ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างฐานลูกค้าและเพิ่มแรงจูงใจในการเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง


รวมถึงสะดวกรวดเร็วไร้รอยต่อ สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
ตลอดช่วงวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในช่วงเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทยังคงเดินหน้าปรับกลยุทธ์ในการดำเนินงานต่างๆ เพื่อวางรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับธุรกิจ ร่วมสร้างคุณค่าในระยะยาว และเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน


โดยในปี 2565 ทางบริษัทเริ่มต้นแผนการดำเนินงานด้วยการเปิดโครงการเดอะ ล้ง 1919 ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งใหม่ริมสายน้ำเจ้าพระยาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา 


พร้อมด้วยแผนการผลักดันเชียงใหม่ให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวระดับลักชัวรี่ของภูมิภาค ด้วยการเปิดโรงแรมมีเลีย เชียงใหม่ โรงแรมจากเครือมีเลีย แห่งแรกของภาคเหนือที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา 


AWC มุ่งมั่นที่จะเดินหน้าพัฒนาโครงการคุณภาพเพื่อเสริมศักยภาพและเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า รวมถึงการพัฒนาให้เป็นทรัพย์สินที่สามารถสร้างกระแสเงินสดให้แข็งแกร่ง สะท้อนถึงการเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ของบริษัทให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ผ่านกลยุทธ์การดำเนินงานร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรระดับโลก


ในการสร้างคุณค่าในระยะยาวร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อช่วยยกระดับการแข่งขันของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการ รวมถึงกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล ภายใต้พันธกิจ “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า” ไปด้วยกันอย่างยั่งยืน