‘ส. ขอนแก่นฟู้ดส์’รุกเพิ่มเมนูอาหารพร้อมทาน-เปิดร้านอาหารแบรนด์ใหม่

13 พ.ค. 2559 | 09:48 น.
อัปเดตล่าสุด :13 พ.ค. 2559 | 16:54 น.
[caption id="attachment_52771" align="aligncenter" width="318"] คุณเจริญ รุจิราโสภณ เจริญ รุจิราโสภณ[/caption]

นายเจริญ รุจิราโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 ว่า    บริษัทฯ มีรายได้รวม 632 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 567 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 33 ล้านบาท โดยการเติบโตดังกล่าวมาจากผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานที่สามารถผลิตได้เต็มกำลังการผลิตภายหลังจากการปรับปรุงคุณภาพโรงงานดันยอดขายเติบโต 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่นเดียวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปที่มีการเร่งรุกตลาดผลิตภัณฑ์พร้อมรับประทานที่แสดงการเติบโตได้ดีเช่นกัน

ขณะที่กลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน หรือ QSR ได้ปรับภาพลักษณ์แบรนด์สินค้าจาก ‘แซ่บ เอ็กซเพรส’ เป็นแบรนด์ ‘แซ่บ คลาสสิค’ พร้อมเพิ่มรายการเมนูอาหารที่มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น “แซ่บจิ้มจุ่ม” เป็นต้น ทางด้านร้านข้าวขาหมู ‘ยูนนาน’ ได้เปิดสาขาแฟรนไชส์ที่ประเทศกัมพูชาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งก็สามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับที่น่าพอใจเช่นกัน

“เราพอใจกับผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ในยามที่เศรษฐกิจยังค่อนข้างชะลอตัว แต่เรายังผลักดันยอดขายให้เติบโตขึ้นได้ เนื่องจากเรารุกทำการตลาดอย่างหนักเพื่อเพิ่มยอดขายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการที่ดีของบริษัทฯ” นายเจริญ กล่าว

นายเจริญ กล่าวต่อไปว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 2/59 นั้น คาดว่าจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันรายได้รวมในปีนี้ให้เติบโต 15% โดยในกลุ่มธุรกิจ QSR นั้น บริษัทฯ ได้เปิดตัวร้านอาหารแบรนด์ “เตี๋ยว ส.” แห่งแรกในย่านคู้บอน รามอินทราในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นร้านที่จำหน่ายข้าวขาหมูและร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ในคูหาเดียวกัน และหากได้รับการตอบรับที่ดี คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเปิดสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 5 สาขา

ขณะเดียวกันจะรุกขยายสาขาร้านอาหาร ‘แซ่บ คลาสสิค’ และร้านข้าวขาหมู ‘ยูนนาน’ เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 10 สาขา ภายในปีนี้ จากสิ้นไตรมาสแรกที่มีจำนวน 41 สาขา แบ่งเป็นในประเทศไทย 38 สาขา สปป.ลาว 2 สาขาและกัมพูชา 1 สาขา โดยในเร็ว ๆ นี้จะเปิดสาขาร้าน ‘แซ่บ คลาสสิค’ ในรูปแบบร้านแฟรนไชส์แห่งแรกในย่านทาวน์ อิน ทาวน์ อีกด้วย

บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับตลาดของผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน โดยบริษัทฯ จะเปิดตัวเมนูอาหารใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ หลังจากในช่วงไตรมาสแรกได้เปิดตัวไปแล้วหลายเมนู เช่น ผลิตภัณฑ์หมูยอน้ำยำ แหนมพร้อมถั่ว ลูกชิ้นรักบี้ทอดพร้อมน้ำจิ้ม ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นที่น่าพอใจ โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าด้วยแนวทางการดำเนินงานดังกล่าว จะผลักดันผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้