Marimekko (มารีเมกโกะ) ไลฟ์สไตล์ แฟชั่นแบรนด์จากฟินแลนด์ ที่สาวไทยและแฟชั่นนิสต้าทั่วโลกรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี ด้วยจุดเด่นผ้าพิมพ์ลายที่ผสมผสานสีสันและลายพิมพ์อันเป็นเอกลักษณ์ สะท้อนถึงดีเอ็นเอของแบรนด์ผ่านศิลปะการดีไซน์ในแบบฉบับของสแกนดิเนเวียน จนทำให้หลายคนหลงใหล
แต่วันนี้สาวก “มารีเมกโกะ” จะไม่ได้สัมผัสเพียงแค่เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องหนังเท่านั้น เพราะมารีเมกโกะ เปิดให้บริการ “Marimekko Pop-Up Cafe” (มารีเมกโกะ ป๊อบอัพคาเฟ่) สาขาแรกในโลก ณ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ภายใต้แนวคิด “The best place to bring joy to everyday life” และแม้จะเพิ่งเริ่มต้นเปิดให้บริการได้เพียงเดือนเดียว แต่มีลูกค้าวนเวียนเข้าคิวใช้บริการแบบหนาตาตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะช่วงไพร์มไทม์ ที่หลายคนอาจต้องรอคิวนานนับชั่วโมง
ร้าน Marimekko Pop-Up Cafe ตั้งตระหง่านบริเวณชั้น 1 ใกล้กับทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้า BTS สถานี เพลินจิต ด้วยบรรยากาศและการออกแบบตกแต่งร้านที่ถ่ายทอดแนวคิด “The art of print making, Simplicity, และ Nordic Charming” ออกแบบพื้นที่สไตล์นอร์ดิกดีไซน์ที่สวยงามและเสริมความประทับใจผ่านการตกแต่งร้านด้วยผลิตภัณฑ์ Home Collection จาก Marimekko ไม่ว่าจะเป็น ผ้าพิมพ์ลายแจกัน, ปลอกหมอน และของตกแต่งอื่นๆ ให้เพลิดเพลินและสัมผัสกลิ่นอายแบบฉบับสแกนดิเนเวีย อันเป็นแหล่งกำเนิด
อุปกรณ์ของใช้ ของตกแต่งทั้งแก้ว จาน ชาม ตลอดจนหมอนอิง แก้วกระดาษทุกชิ้น บ่งบอกความเป็นตัวตนของร้านได้เป็นอย่างดี (กระซิบนิดเดียวว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นในร้านไม่มีจำหน่าย หากชื่นชอบดีไซน์ ลวดลายและการใช้งาน สามารถเลือกช้อปได้ที่ร้านมารีเมกโกะใกล้ๆ ได้ทุกสาขา)
ความโดดเด่นของ ร้าน Marimekko Pop-Up Cafe หนีไม่พ้น “อาหาร-เครื่องดื่ม” สุดชิค ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากฤดูกาลทั้ง 4 ของประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ซึ่งแต่ละฤดูกาลมีความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ เชฟจึงนำวัตถุดิบที่โดดเด่นของแต่ละฤดูกาลมาใช้เป็นวัตถุดิบหลัก เพื่อรังสรรค์เมนูอาหารแบบสแกนดิเนเวีย แต่ยังได้รสชาติติดปลายลิ้นแบบที่คนไทยชอบ
เมนูอาหาร ที่พลาดไม่ได้ คือ Rigatoni Pink Sauce with Prawns & Caviar ที่เสิร์ฟความพิเศษด้วยเส้น Rigatoni เป็นเส้นพาสต้าแบบหลอดคล้ายเส้นเพนเน่ (Penne) แต่มีขนาดใหญ่กว่า ทำให้ซึมซับในตัวเส้นได้ดี โดยทางร้านใช้ Pink Sauce สูตรเฉพาะที่ให้รสชาติกลมกล่อมทานง่าย ผัดกับกุ้ง ปรุงรสด้วยเกลือ, พริกไทย ท็อปปิ้งด้วยคาเวียร์ (Caviar) รสชาตจะมีความหอมมันแบบครีมซอส ตัดด้วยรสเปรี้ยว ปลุกความสดชื่นให้กับผู้ได้ลิ้มรส ด้วยสนนราคา 390 บาท เรียกได้ว่าสุดคุ้ม
ส่วนเมนู Starter ที่จะมาเสิร์ฟเรียกน้ำย่อย ต้องเป็น “Green Pea & Strawberry Salad” ที่ผสานความกรอบของแอสพารากัส, Green Pea, Cherry Tomato (มะเขือเทศสองสี) และสตรอเบอรี่สด ท็อปปิ้งด้วย Salmon Gravlax ที่หมักตามสูตรของที่ร้าน ให้รสชาติเค็มและหวานกำลังดี พร้อมราดด้วยน้ำสลัด Biberry salad ที่มีส่วนผสมของ น้ำผลไม้ Bilberry จาก Biokia เบอร์รี่ป่าออร์แกนิก 100% จากตอนเหนือของฟินแลนด์ที่ถือว่าเป็น Superfoods อุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ฯลฯ และความเผ็ดจาก Horseradish Sauce รับรองว่าทานแล้วต้องอยากทานอีก ในราคา 390 บาทเช่นกัน
อีกหนึ่งเมนูที่อยากให้ลอง เหมาะสำหรับผู้ที่อยากทานอาหารรองท้อง พร้อมกับกาแฟอุ่นๆ สักแก้ว ต้องมีเจ้านี่ “Crab Meat Pancakes” แพนเค้กเนื้อนุ่มฟูหอมเนย ราดด้วยเนื้อปูก้อนจัมโบ้แบบเต็มคำ ผัดกับครีมซอส และ Sriracha Remoulade sauce ที่เพิ่มรสชาติให้จัดจ้านถูกปากคนไทยยิ่งขึ้น และผสมผสานความเป็นสแกนดิเนเวียนด้วยผักดองเสิร์ฟเป็นเครื่องเคียง เรียกว่า ใครที่ได้กินเนื้อปูเพียงแค่คำแรก บอกได้เลยว่าอร่อยมากๆ โดยเฉพาะเมื่อทานกับผักดอง สนนราคาอยู่ที่ 490 บาท
ส่งท้ายเมนูแนะนำสำหรับคนที่ชื่นชอบชีสและแซนวิซสไตล์โฮมเมด กับเมนู “Grilled Beef Sandwich” แซนวิซขนมปัง Focaccia ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยความนุ่มและกลิ่นหอมน้ำมันมะกอกกับเครื่องเทศ ประกอบกับเนื้อย่างสูตรเฉพาะของทางร้าน ที่หมักนานกว่า 24 ชั่วโมง ท็อปปิ้งด้วยชีส 2 ชนิดให้ ชีสละลายฉ่ำเข้ากับเนื้อ ราดซอส Sriracha Ramoulade เพิ่มความจัดจ้าน เสิร์ฟคู่กับ แตงกวาดอง, กระหล่ำม่วงดอง, Dijon Mustard และ Rocket ราคา 390 บาท แค่นี้สำหรับมนุษย์ทำงานก็อิ่มท้องได้ทั้งวัน
ส่วนเมนูเครื่องดื่มนอกจากกาแฟแก้วโปรด แล้วยังมีเครื่องดื่มจากซีกสแกนดิเนเวียนให้ลิ้มลองทั้ง Sea Buckthorn Tonic , Wild Cranberry Shrub, Bilberry Spritzer ที่มาช่วยเติมให้เมนูจานอร่อยเด็ดขึ้นไปอีก
ขอย้ำว่าใครที่ได้มาลิ้มรสอาหารที่นี่ สามารถไปซ้ำได้บ่อยๆ เพราะจะมีเมนูสไตล์สแกนดิเนเวียนหมุนเวียนทุกไตรมาส ไปอีกทีเมนูจานโปรดที่เคยลอง อาจจะไม่อยู่แล้วก็ได้
สุดท้ายหากไม่อยากตกเทรนด์ ก็ต้องไม่พลาด “ซิลฟี่กับกาแฟแก้วโปรด” พร้อมแชร์ให้โลกรู้ก่อนใครว่า... มาแล้วนะ!! Marimekko Pop-Up Cafe แห่งแรกของโลก (^_^)
หน้าที่ 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,799 วันที่ 10-13 กรกฎาคม พ.ศ. 2565