ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่เทศบาลนครอุดรธานีตั้งสภาพลเมืองขึ้นมา เพื่อให้ตัวแทนชุมชนร่วมเสนอความเห็นการพัฒนาเมืองอุดรธานี ล่าสุดมีความเห็นร่วมกันในการนำจุดเด่นของเมือง มาสร้างความเปลี่ยนแปลงใน 4 ปีข้างหน้า เพื่อเตรียมพร้อมรอง รับอนาคตปี 2569 ที่จังหวัดอุดรธานี จะเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมระดับนานาชาติ 2 งานใหญ่ คือ เป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก อุดรธานี และ เจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาแห่งชาติ
ดร.ธนดร พุทธรักษ์ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แผนการสร้างนครอุดรธานี เพื่อเป็นเมืองเดินได้ (Walkable City) โดยปรับปรุงทางเท้าให้สะดวกปลอดภัย และเชื่อมโยงย่านต่างๆ ที่โดดเด่นเป็นเส้นทางเดินเที่ยวชมเมือง เชื่อมโยงถนนสายวัฒนธรรมที่แตกต่างหลากหลาย ที่ผสมผสานและอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข มาเป็นตัวตั้ง
เริ่มแต่เช้าร่วมทำบุญตักบาตร จากนั้นเลือกรับประทานอาหารเช้าหลายแบบ เสร็จแล้วสามารถเดินเล่นชมเมือง จับจ่ายสินค้าที่สนใจ แบบชิลๆ ในชุมชนวัฒนธรรมต่างๆ ของโซนเมือง หรือจะไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดตามโปรแกรมที่วางไว้ก็ได้ เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจพื้นที่
จุดแรกเริ่มที่ถนนนเรศวร ที่ต้้งวัดป่าบ้านจิก ที่หลวงปู่ถิรจิตธัมโม เคยเป็นเจ้าอาวาส และเป็นหนึ่งในวัดที่ททท.จัดอยู่ในโปรแกรมท่องเที่ยวธรรมะ ร่วมตักบาตรพระสงฆ์ที่จะออกบิณฑบาตทุกเช้าเป็นทิวแถว สวยงาม จึงเป็นถนนสายธรรมะกลางเมือง
ถนนสายนี้ยังมีร้านอาหารนานาชนิด ทั้งไทย จีน เวียดนาม อาหารถิ่น ร้านกาแฟ ไอศครีม หรือร้านนวดสปา ดอกบัวแดง ให้เลือกหารับประทานเป็นอาหารเช้าได้ตามความชอบ เป็นย่านที่มีจุดเด่นอยู่แล้ว เพียงปรับปรุงพัฒนาอีกเล็กน้อย ก็พร้อมเป็นถนนสายวัฒนธรรม และถนนคนเดินเพื่อชม ชิม ช็อป ได้อย่างน่าสนใจ
จุดต่อมาคือ สี่แยกถนนนเรศวรตัดกับถนนศรีชมชื่น เป็นย่านตลาดอาหารปรุงสุกเช้า-เย็น ที่ชาวอุดรฯนิยมมาซื้อหาไปรับประทานที่บ้าน หรือเตรียมไปเป็นอาหารกลางวัน และยังเป็นย่านถิ่นที่อยู่ของชาวมุสลิม หรือคุ้มแขก มีมัสยิด ร้านอาหารมุสลิมแท้ ๆ ไว้บริการ
ต่อเนื่องกันเป็นถิ่นของชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม สืบทอดเชื้อสาย จากชาวเวียดนามอพยพที่ข้ามนํ้าโขงเข้ามาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่ พ.ศ. 2489 มีสมาคมชาวเวียดนาม ตั้งอยู่คอยควบ คุมดูแลประสานงานกับทางราชการ และทางประเทศเวียดนาม เทศบาลจะเข้าไปบูรณะปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เป็นถนนวัฒนธรรมเวียดนาม ที่ผสมผสานกับวัฒนธรรมไทย จีน มุสลิม ที่อยู่ ร่วมกันอย่างลงตัว
ขาดไม่ได้คือย่านวัฒนธรรมจีน ที่มีประวัติมายาวนาน คือ ศาลเจ้าปู่ย่าอุดรธานี ตั้งอยู่ริมหนองฉิม หรือหนองบัว เป็นศูนย์รวมความศรัทธาของคนจีนไม่เพียงในเมืองไทย แต่ไปไกลถึงต่างประเทศ คือ สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน และจีนแผ่นดินใหญ่ ใกล้กันมีศูนย์วัฒนธรรมไทย-จีน เป็นแหล่งความรู้ทางวัฒนธรรมจีนในพื้นที่อนุภาคลุ่มนํ้าโขง
ทางเทศบาลฯจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลและปรับปรุงภูมิทัศน์ถนนรอบๆ หนองบัว ให้เป็นบรรยากาศจีนๆ มากขึ้น พร้อมกับปรับปรุงถนนรอบหนองบัวให้สะอาด ปลอดภัย ให้ชุมชนโดยรอบที่อยู่กันหนาแน่นได้ใช้สัญจร และเป็นพื้นที่ออกกำลังกาย
เทศบาลนครอุดรธานี ยังมีนโยบายสร้างเมืองให้ปลอดภัย เหมาะแก่การเดิน หรือ Walkable City โดยร่วมกับกองบังคับการตำรวภูธรจังหวัดอุดรธานี กองบัญชาการตำรวจภาค 4 กำหนดพื้นที่เขตเทศบาลนครอุดรธานี ให้เป็นเขต “เซฟตี้โซน” ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง กล้อง CCTV และขยายพื้นที่เพิ่มเติมครอบคลุมทั้ง 105 ชุมชน และจะต่อเนื่องพื้นที่เทศบาลบริวารโดยรอบทั้ง 4 เทศบาลในอนาคตต่อไป เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยจากอาชญากรรมทุกชนิด ที่เรียกว่า “ผู้หญิงคนเดียวก็เดินเล่นได้อย่างปลอดภัย” เชิญชวนให้คนไปใช้สวนสาธารณะเพื่อพักผ่อน ออกกำลังกาย
“เป็นการเตรียมความพร้อมของเมือง ให้สวยงามปลอดภัยสูงสุด รองรับอนาคตเมืองในอีก 4 ปีข้างหน้า ทั้งในด้านการเดินทางท่องเที่ยว ด้านเศรษฐกิจ สู่การเป็นศูนย์กลางของการค้า การลงทุน การบริการ เป็นประตูสู่กลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่นํ้าโขง ที่สำคัญคือ ส่งเสริมการท่องเที่ยวของอุดรธานีจากเมืองรอง ให้ยกระดับสู่เมืองท่องเที่ยวหลัก และการท่องเที่ยวชุมชนให้ได้” ดร.ธนดร กล่าวยํ้า
ยงยุทธ ขาวโกมล/รายงาน
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,777 วันที่ 24-28 เมษายน พ.ศ.2565