นายแดน ศรมณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอดีเอ ดิจิทัล ประเทศไทย จำกัด ผู้ให้บริการการตลาดดิจิทัลครบวงจร ทั้งในด้าน Data Analytics และการใช้เทคโนโลยีการตลาด (MarTech) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า ปัจจุบันนักการตลาดให้ความสำคัญกับการทำตลาดส่วนบุคคล (Personalized Marketing) หรือการตลาดแบบ one to one ถือเป็นกลยุทธ์หลักที่นักการตลาดนำมาใช้ในยุคดิจิทัล
เนื่องจากสามารถสื่อสารได้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย ท่ามกลางภูมิทัศน์สื่อที่มีจำนวนมากและมีความหลากหลาย นอกจากนี้ การตลาดส่วนบุคคลยังสามารถสร้างประสบการณ์และความประทับใจระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
การสำรวจพบว่า นักการตลาด 90% เชื่อว่าการตลาดส่วนบุคคลเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในอนาคตท่ามกลางการแข่งขันด้านการตลาดที่รุนแรงเพื่อช่วงชิงผู้บริโภค เนื่องจาก 74% ของผู้บริโภคจะรู้สึกหงุดหงิดกับคอนเทนต์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเอง
ขณะที่ 48% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้ามากขึ้นหากมีประสบการณ์กับแบรนด์แบบส่วนตัว นอกจากนี้ผู้บริโภคยังชื่นชอบโฆษณาที่สื่อสารตรงกับความสนใจส่วนตัว และ 40% มีการซื้อสินค้าหลังจากได้รับโฆษณานั้น ๆ
“ผู้บริโภคมีแนวโน้มยอมรับโฆษณาที่ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคล และ 1 ใน 3 มีแนวโน้มที่จะชอบแบรนด์นั้น ๆ มากขึ้น เมื่อมีการปรับเนื้อหาการโฆษณาให้สอดรับกับความสนใจของพวกเขา โดยเฉพาะผู้บริโภครุ่นใหม่ในกลุ่มมิลเลนเนียม ซึ่งนักการตลาด และผู้โฆษณาต้องศึกษาและปรับกลยุทธ์การสื่อสารให้ตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อช่วงชิงฐานลูกค้า”
ทั้งนี้ เอดีเอ ดิจิทัล ประเทศไทย มีการพัฒนาเครื่องมือ “Creative Automation” ขึ้น ด้วยความเชื่อว่าไม่มีงานครีเอทีฟใดที่จะเหมาะสำหรับทุกคน หรือสามารถสื่อสารได้ตรงกับทุกกลุ่มเป้าหมาย Creative Automation จึงเข้ามาตอบโจทย์การสร้างสรรค์ชิ้นงานโฆษณาให้สื่อสารได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม
โดยใช้เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยในการสร้างสรรค์ชิ้นงานซ้ำ ๆ ในหลากหลายรูปแบบ โดยเครื่องมือดังกล่าวทำให้สามารถสร้างสรรค์ชิ้นงานรูปแบบและวิดีโอกว่า 1,000 ภาพในเวลาไม่กี่นาที และปรับขนาดโดยอัตโนมัติเพื่อให้เหมาะกับแต่ละสื่อ ช่วยลดขั้นตอนการทำงานและลดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า 85% เมื่อเทียบกับการทำงานรูปแบบเดิม
“ข้อดีของ Creative Automation ช่วยให้การสร้างสรรค์ชิ้นงานตรงกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม เพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา ให้ผลตอบรับที่ดีและรวดเร็วกว่า มีความแม่นยำ และสามารถปรับเปลี่ยนชิ้นงานโฆษณาให้สอดรับกับประสบการณ์ของกลุ่มเป้าหมายที่มีความแตกต่างกัน”
ปัจจุบัน มีลูกค้า 4 – 5 ราย ที่ใช้เครื่องมือ Creative Automation ของเอดีเอ ดิจิทัลฯ ในการสร้างสรรค์แคมเปญโฆษณา เช่น ลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งการพัฒนาแคมเปญดังกล่าว จะช่วยสร้างฐานข้อมูล ความพึงพอใจของผู้บริโภค ผลตอบรับจากแคมเปญและพฤติกรรมของลูกค้าที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปใช้ในการวิเคราะห์และสร้างสรรค์แคมเปญโฆษณาให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นในอนาคต