นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่งและค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้รับแจ้งอย่างไม่เป็นทางการ จากตัวแทนส่งสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา "มาม่า" ว่าจะมีการปรับ ขึ้นราคาขายปลีก มาม่า ซองละ 1 บาทจาก 6บาท/ซอง เป็น 7 บาท/ซอง ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2565 นี้
ซึ่งการปรับขึ้นราคาขายปลีก แบบซอง เป็นคนละส่วนกับที่ทางบริษัทมีการปรับสูตร เพื่อตั้งราคาขายปลีกใหม่ที่ 8 บาท/ซอง ซึ่งถือเป็นทางออกของผู้ผลิตที่ถูกบีบจากกกระทรวงพาณิชย์ไม่ให้ปรับขึ้นราคา
อย่างไรก็ตามสมาคมค้าส่งและค้าปลีกไทย ยังไม่ได้รับหนังสือขอแจ้งปรับขึ้นราคา อย่างเป็นทางการจากบริษัทผู้ผลิต ซึ่งนายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการสำนักกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFMAMA ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อมาม่า เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทยังไม่ได้รับแจ้งจากกระทรวงพาณิชย์ว่าได้อนุมัติให้ขึ้นราคามาม่า
และยังอยู่ระหว่างการขั้นตอนรอการอนุมัติ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกระทรวงพาณิชย์ว่าจะให้ขึ้นเมื่อไหร่ โดยข้อเท็จจริงแล้วมันควรจะขึ้นราคามาหลายเดือนแล้วตามต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน "เส้นหมี่ไวไว" จะปรับขึ้นเป็น 100 บาท/ลัง(จำนวน 40 ห่อ) หรือปรับขึ้น 3-4 บาท/ห่อ(ขนาด 180 กรัม) หลังแบกรับต้นทุนทุกอย่างที่สูงขึ้นไม่ไหว ประกอบกับไม่ได้ปรับราคามาหลายปีในวันที่วันที่ 1 ส.ค. 2565 นี้เช่นกัน
ในส่วนของน้ำมันปาล์มขวดนั้น ขณะนี้ปรับลดราคาลงต่อเนื่อง เฉลี่ยอยู่ที่ขวดละ 60 บาท ปลาย ๆ ตามราคาผลปาล์มสดที่ลดลง หากมองถึงแนวโน้มราคาผลปาล์มสดและกลไกตลาดในขณะนี้ ราคาควรจะต้องปรับลดลงมาอีกมาอยู่ที่ไม่เกิน 40 บาท/ขวด เนื่องจากประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตปาล์มได้เอง เมื่อราคาผลปาล์มลดลง น้ำมันปาล์มต้องลดลงตามด้วย
โดยก่อนหน้านี้ราคาเคยอยู่ที่ขวดละไม่ถึง40 บาท ส่วนน้ำมันถั่วเหลืองนั้นคาดว่าราคาจะปรับลดลงตามน้ำมันปาล์มด้วย