วันที่ 3 ส.ค. 2565 เมื่อเวลาประมาณ 10.30น. ที่ห้องประชุมตอบแทนคุณแผ่นดิน ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย นาวาอากาศตรี สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย แถลงความคืบหน้าการเคลื่อนย้ายเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของการสายการบินนกแอ ร์ที่ประสบอุบัติเหตุไถลออกนอกรันเวย์ตั้งแต่ช่วงกลางดึกคืนวันที่ 30 ก.ค.65 ว่า เมื่อวานนี้ได้ดำเนินการตามแผนการเคลื่อนย้ายท่าอากาศยานที่วางไว้ทุกประการ
แต่เมื่อถึงเวลาประมาณ 12.00น. เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด คือล้อ Main Landing Gear ด้านซ้ายเกิดทรุดตัว ทีมเคลื่อนย้ายฯ ตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ามีน้ำขังใต้ดินจำนวนมาก ประกอบกับเมื่อวานนี้มีฝนตกมาเป็นระยะ ๆ และตกหนักมากในช่วงกลางคืน จนต้องหยุดปฏิบัติการเคลื่อนย้าย เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยกับทีมเคลื่อนย้าย
ส่วนการที่ต้องออกประกาศผู้ทำการในอากาศ (NOTAM) ขอขยายระยะเวลาปิดทางวิ่ง หรือรันเวย์ จากเดิมถึงวันที่ 3 ส.ค. เป็นเวลา 22.00 น. ของวันที่ 5 ส.ค.นั้น ผอ.ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ชี้แจงว่า เป็นไปตามข้อตกลงกับทางสายการบิน ว่าต้องประกาศก่อนล่วงหน้า 48 ชั่วโมง เพื่อให้สายการบินต่าง ๆ วางแผนจัดเที่ยวบินไปขึ้นที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ อย่างไรก็ตามหากการเคลื่อนย้ายประสบความสำเร็จในวันนี้ รวมทั้งการปรับปรุงรันเวย์แล้วเสร็จพร้อมให้บริการ ก็สามารถยกเลิกผู้ทำการในอากาศ (NOTAM) ที่ประกาศปิดรันเวย์จนถึงเวลา 22.00น.ของวันที่ 5สิงหาคม ได้
ผอ.ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ชี้แจงเพิ่มเติมด้วยว่า ที่ตนต้องบอกกับสื่อมวลชนและประชาชนอย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้น เนื่องจากเวลา 10.30 น.ของวันนี้ (3ส.ค. 2565) ทีมเคลื่อนย้ายอากาศยานขัดข้อง(Disabled Aircraft Removal) จะดำเนินการเคลื่อนย้านเครื่องบินที่ประสบเหตุ โดยใช้สลิงค์และรถเครนสั้น ฉุดลากทางด้านหลัง ให้มาที่จุดจอดเครื่องบินปกติ โดยได้มีการปรับแผนพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันกับเมื่อวาน ทั้งนี้ หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนจะสามารถลากจูงเคลื่อนย้ายเครื่องบินมาที่จุดจอดได้ในเวลาประมาณ 22.00 น.ของคืนนี้
ผอ.ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ย้ำด้วยว่า หากเคลื่อนย้ายอากาศยานสำเร็จลงไปแล้ว ขั้นตอนถัดไปจะเป็นการเตรียมความพร้อมของทางวิ่ง หรือรันเวย์ ให้พร้อมสำหรับการขึ้นลงของอากาศยานซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่มากนัก บางทีอาจจะยกเลิกประกาศผู้ทำการในอากาศ (NOTAM) ที่ออกมาเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งขยายไปถึงเวลา 22.00น.ของวันที่ 5 ส.ค. นั่นหมายถึงว่าท่าอากศยานแม่ฟ้าหลวงจะสามารถเปิดให้บริการขึ้นลงเครื่องบินของสายการบินต่างๆ ตามปกติได้เลย
ในส่วนของผู้โดยสารที่ต้องเดินทางไปขึ้นเครื่องบินที่ท่าอากศยานเชียงใหม่ ยังคงอกมาโวยวายการบริการของท่าอากศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย และสายการบินต่างๆ โดยมีสาระสำคัญที่ผู้โดยสารอยากจะบอกคือ การบริการแย่มาก เจ้าของสถานที่คือท่าอากาศยานไม่สามารถเป็นที่พึ่งของผู้โดยสารได้ การประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ทำได้ไม่ดีเลย ไม่ทันต่อเหตุการณ์ สายการบินก็แย่ ไทยสไมล์ก็ไม่แจ้งอะไรเลย ทุกอย่างผู้โดยสารต้องวอล์คอินมาดำเนินการที่สนามบนด้วยตนเอง ซึ่งก็ไม่ได้การันตีเลยว่า จะมีที่นั่งบนรถบัสเพื่อเดินทางไปขึ้นเครื่องที่ท่าอากศยานเชียงใหม่ บริหารงานกันแบบนี้ได้อย่างไร ขนาดคนไทยยังวุ่นวายนาดนี้ ถ้าเป็นชาวต่างชาติจะเดือดร้อนวุ่นวายกันขนาดไหน
ทางด้านนางนวพรรณ สังเวียนวงศ์ ประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจนำเที่ยว สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เลิฟ ทราเวล จำกัด กล่าวว่า ขอพูดภาพรวมในฐานะผู้ทำธุรกิจนำเที่ยว ตนโชคดีที่ไม่ได้มีกรุ๊ปในระหว่างที่สนามปิด และขอแสดงความเห็นใจเพื่อนร่วมอาชีพคนทำทัวร์ ซึ่งได้รับผลกระทบค่อนข้างเยอะ เพราะมีค่าใช้จ่ายและบริหารจัดการใหม่หมด ตนมีกรุ๊ปวันที่ 8 ส.ค.จะเดินทางมาเชียงราย กรุ๊ปทัวร์ถามมาเราบอกไม่ได้ ว่าสนามบินจะเปิดได้ไหม เพราะมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ จึงคิดว่าจะขอนัดประชุมลูกค้าว่าขอเลื่อนดีกว่าไหม
ผู้ประกอบการนำเที่ยวรายนี้ ยังระบุด้วยว่า เหตุที่เกิดขึ้น นอกจากจะมีความเสียหายจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีค่าเสียโอกาสของธุรกิจท่องเที่ยว เพราะลูกค้าต้องตัดสินใจว่าจะเดินทางมาท่องเที่ยวดีไหม เพราะลูกค้ากรุ๊ปทัวร์จะตัดสินใจยังไง เขาต้องคำนึงถึงความปลอดภัย เพราะเป็นเรื่องของอารมณ์และความรู้สึก ส่วนความเสียหายทางด้านอื่น ๆ ตนคงพูดแทนไม่ได้ น่าจะเป็นหอการค้าจังหวัดเชียงรายที่ต้องประเมิน
ชัยณรงค์ สีนาเมือง/รายงาน