กู้เครื่องบินโบอิ้ง737-800 “นกแอร์”หนีไม่พ้นฝ่ายช่างการบินไทย
กู้เครื่องบินโบอิ้ง737-800 “นกแอร์”หนีไม่พ้นฝ่ายช่างการบินไทย ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ พร้อมเผยอุปสรรค-ขั้นตอนการเคลื่อนย้ายเครื่องบิน ที่ยังไม่จบทำให้ต้องขยายเวลาปิดรันเวย์สนามบินแม่ฟ้าหลวงออกไปถึงวันที่ 5 สิงหาคม 2565
ผ่านมาร่วม 5 วันแล้วนับจากเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของการสายการบินนกแอร์ ที่ประสบอุบัติเหตุไถลออกนอกรันเวย์ ตั้งแต่ช่วงกลางดึกคืนวันที่ 30 ก.ค.65 ซึ่งปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องมากมายที่เข้ามาช่วยกู้เครื่องบินนกแอร์ พ้นรันเวย์ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ไม่ว่าจะเป็นกรมท่าอากาศยาน ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย การบินไทย บริษัทปตท. นกแอร์ กองบิน 41 กองทัพอากาศ มณฑลทหารบกที่ 37 จังหวัดทหารบกเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
แต่แม่งานหลักที่เป็นแม่งานหลักในการย้ายเครื่องบินนกแอร์ในครั้งนี้ ก็คือ การบินไทย การกู้เครื่องบินในไทยมีเพียงฝ่ายช่างของการบินไทยเท่านั้นที่มีไลเซ็นท์ที่จะดำเนินการได้ นกแอร์จึงต้องพึ่งการบินไทยในการนำเครื่องบินออกจากรันเวย์ เพื่อให้สามารถเคลมประกันได้
โดยการบินไทยต้องขนอุปกรณ์ในการกู้เครื่องบินจากสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ โดยรถบรรทุก เพื่อเข้าไปยังสนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่างของการบินไทย ได้เข้าพื้นที่เพื่อเริ่มกู้เครื่องบินเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2565
สำหรับปฏิบัติการเคลื่อนย้ายอากาศยานออกจากรันเวย์ในครั้งนี้ เริ่มจากทีมเจ้าหน้าที่ ปตท. ที่เดินทางมาจากสนามบินอู่ตะเภา เข้าดำเนินการถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ที่ยังคงค้างอยู่ในอากาศยานจำนวนหนึ่งตามขั้นตอนในการเคลื่อนย้ายฯ เพื่อความปลอดภัยในการดำเนินการ เจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ (Recovery Team) ของการบินไทย ที่มาถึงในช่วงเย็นของวันที่ 1สิงหาคม 2565 ได้เริ่มใช้เบาะลมยกอากาศยานขึ้นเพื่อตรวจสอบความเสียหายและวางแผนในการเคลื่อนย้ายอากาศยาน
ขณะที่ทีมขุดดินประกอบด้วย รถขุดดินของห้างหุ้นส่วนจำกัด ธนะวงศ์กรุ๊ปและเจ้าหน้าที่ขุดซึ่งทำงานร่วมกันระหว่างกำลังพลทหารจากมณฑลทหารบกที่ 37 เชียงราย และพนักงานท่าอากาศยานเชียงรายนำทีมขุดดินบริเวณล้อเครื่องบินที่จมลงในดิน
ทั้งจากการตรวจสอบพบว่า ล้อ Nose Gear (ล้อหน้าของเครื่องบินที่ใช้ในการต่อ Tow bar เพื่อเชื่อมกับรถดัน) “หัก” จึงต้องมีการวางแผนในการใช้รถเทรลเลอร์เข้ามารองส่วน Nose Gear พร้อมกับ Mock Up ด้วยรถเทรลเลอร์ ที่ได้รับความอนุเคราะห์จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย
โดยสามารถยกส่วนด้านหน้าของอากาศยานขึ้นมาได้ และได้ดำเนินการบดอัดหินคลุกบริเวณพื้นที่ใต้ลำตัวเครื่องบิน เพื่อเตรียมทำเส้นทางการเคลื่อนย้ายอากาศยานออกจากพื้นที่ แต่ด้วยฝนที่ตกหนักต่อเนื่องและตกหนักในช่วงกลางคืน ทำให้การเคลื่อนย้ายต้องหยุดเป็นช่วงๆ
กระทั่งเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้มีการลากจูงเครื่องบินขั้นจากบริเวณพื้นที่ ที่ล้อเครื่องบินจมดินได้สำเร็จและลากจูงอากาศยานได้ระยะทางประมาณ 6 เมตร แต่ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อล้อ Main Landing Gear ด้านซ้ายเกิดการทรุดตัว จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมอีกจำนวนมาก และต้องใช้เวลาในการเคลื่อนย้าย จึงทำให้ต้องขยายระยะเวลาปิดรันเวย์ออกไปเป็นวันที่ 5 สิงหาคม 2565 เวลา 22.00 น.
ในวันที่ 3 สิงหาคม 2565 ทีมเคลื่อนย้ายอากาศยานขัดข้อง(Disabled Aircraft Removal) จะดำเนินการเคลื่อนย้ายเครื่องบินที่ประสบเหตุ โดยใช้สลิงค์และรถเครนสั้น ฉุดลากทางด้านหลัง ให้มาที่จุดจอดเครื่องบินปกติ โดยได้มีการปรับแผนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันกับเมื่อวาน หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนจะสามารถลากจูงเคลื่อนย้ายเครื่องบินมาที่จุดจอดได้ในเวลาประมาณ 22.00 น.ของคืนนี้
ล่าสุดในวันนี้(วันที่ 4 สิงหาคม 2565)เมื่อเวลา 04.00 น. ได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายเครื่องบินโบอิ้ง B737 - 800 ที่ลื่นไถลออกนอกรันเวย์สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงรายสำเร็จแล้ว โดยเป็นการกู้ทั้งลำจากจุดที่ลื่นไถลมาถึงบนรันเวย์แล้ว
ต่อไปคือเคลื่อนย้ายไปยังที่จอด ซึ่งเคลื่อนย้ายช้าๆ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 12-15 ชั่วโมง จุดเกิดเหตุกับอาคารผู้โดยสารสนามบินแม่ฟ้าหลวง ที่ห่างกันมาก
อย่างไรก็ตามการเปิดใช้สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย น่าจะเปิดให้บริการได้ในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ ตามประกาศขยายปิดรันเวย์ของสนามบินถึงวันที่ 5 สิงหาคม2565 แต่ทั้งนี้ถ้าสามารถดำเนินการได้เร็วขึ้นทางสนามบินจะแจ้งอีกครั้ง
ล่าสุดวันนี้ CAAT ตรวจสอบมาตรฐานสนามบินแล้ว อนุมัติเปิดสนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย (ทชร.) ตั้งแต่เวลา 22.30 น. ของวันที่ 4 ส.ค. 65 เป็นต้นไป
โดยในวันนี้ได้ขยายเวลาให้ปฏิบัติการบินได้ถึง 22.30 น. เพื่อให้สายการบินไทยเวียตเจ็ทปฏิบัติการบินเที่ยวแรกเพื่อนำเครื่องบินที่ติดค้างที่ ท่าอากาศยานเชียงราย บินลำเปล่าออกได้