ประกันรายได้ข้าวปี 65/66 ล่าสุดรัฐบาลกระเป๋าฉีกหาเงินช่วยเหลือชาวนาวุ่น

ประกันรายได้ข้าว 65/66 หรือโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ฤดูกาลผลิต ปี2565/2566 ซึ่งกำกับดูแลโครงการโดยกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ยังไม่สามารถเสนอโครงการเข้ามาให้ที่ประชุมครม.อนุมัติได้ เพราะยังติดเงื่อนไขของวงเงินงบประมาณที่เกินกรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐ

ตามเแผนกระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอโครงการประกันรายได้ข้าวปี 2565/66 พร้อม 2 โครงการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 150,127.75 ล้านบาท ประกอบด้วย  

1. โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว วงเงิน 86,740.31 ล้านบาท
2. มาตรการคู่ขนาน 3 โครงการย่อย รวมวงเงิน 8,022.69 ล้านบาท
3. โครงการไร่ละ 1,000 บาท วงเงิน 55,364.75 ล้านบาท

สาเหตุที่ยังไม่โอนเงินประกันรายได้ข้าวปี 65/66

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า ขณะนี้การดำเนินโครงการประกันรายได้ข้าวปี 65/66 ยังไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรงวดแรก ในวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ได้ เพราะโครงการยังไม่ได้ผ่านการอนุมัติจากครม. เพราะติดปัญหาเพดานหนี้ในมาตรา 28 ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของภาครัฐ พ.ศ.2561 ซึ่งกำหนดให้การก่อหนี้ภาครัฐต่อสัดส่วนงบประมาณลดลงจากเดิม 35% เป็น 30% ในปีงบประมาณ 2566  

แต่ภาระหนี้ ณ ปัจจุบัน พบว่า มีสัดส่วนสูง เพราะส่วนใหญ่เป้นหนี้ที่ค้างมาจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลก่อนเหลืออยู่กว่า 6 แสนล้านบาท และขณะนี้ก็ยังไม่สามารถหาเงินมาจ่ายทัน เพื่อลดยอดหนี้ก้อนนี้ให้ลดลงได้ 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

• ประกันรายได้ข้าว65/66 จ่ายไม่ทัน 19 ต.ค.
• ประกันรายได้ข้าว 65/66 : เช็คเงิน ธ.ก.ส. ประกันรายได้เกษตรกร ไร่ละ 1000 ที่นี่

​​​​​​​

การแก้ปัญหาจ่ายเงินประกันรายได้ข้าวปี 65/66

ทางออกสำหรับเรื่องนี้ แหล่งข่าว ยอมรับว่า คงต้องรอความชัดเจนจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าจะตัดสินใจอย่างไร เพราะหากจะขับเคลื่อนโครงการประกันรายได้ข้าวปี 65/66 ซึ่งใช้งบประมาณสูง นายกฯ จะต้องเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เพื่อพิจารณาขยายกรอบเพดานหนี้ชั่วคราวอีกครั้งเหมือนกับการทำโครงการประกันรายได้ข้าว ปี 64/65 

“เรื่องนี้ต้องรอนายกฯ ตัดสินใจว่าจะเดินหน้ายังไงต่อ เพราะเงินที่จะจ่ายให้ชาวนาในงวดแรก จะโอนได้ไม่ทันตามกำหนด ซึ่งแนวทางที่ทำได้คือต้องเรียกประชุมคณะกรรมการด่วนเพื่อขยายกรอบเพดานหนี้ พร้อมทั้งปรับรูปแบบจ่ายเงินออกเป็น 3 เฟสด้วย แต่ท้านที่สุดแม้จะขยายกรอบเพดานหนี้ให้เพื่อมีเงินมาใช้ประกันรายได้ข้าว แต่ก็ทำได้แค่โครงการเดียว เพราะรัฐบาลจะไม่มีเงินไปทำโครการอื่น ๆ ได้”แหล่งข่าวระบุ

ก่อนหน้านี้ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ขยายกรอบอัตรายอดคงค้างของภาระหนี้ที่รัฐบาลต้องชดเชย ตามมาตรา 28 จาก 30% เพิ่มเป็น 35% ของกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี เป็นระยะเวลา 1 ปีซึ่งการขยายกรอบเพดานหนี้ตามมาตรา 28 ดังกล่าว ได้ครบกำหนดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565

โดยในปีงบประมาณ 2566 รัฐบาลได้ตั้งงบชำระคืนในส่วนดังกล่าว วงเงินประมาณ 1.04 แสนล้านบาท และหน่วยงานต่าง ๆ ก็อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดโครงการที่ดำเนินการ หากโครงการไหนจบแล้ว แต่ยังไม่ได้ปิดโครงการ ก็ต้องเร่งปิดโครงการและส่งคืนตัวเลขกลับมา