จากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติโครงการการก่อสร้างของกระทรวงคมนาคม 2 โครงการ คือ โครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา – อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง และโครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ มูลค่ากว่า 6,695 ล้านบาท และเกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม
เนื่องจากในวงประชุม ครม. ได้มีข้อสังเกตุ พร้อมกำชับว่าในการดำเนินโครงการก่อสร้าง จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากพื้นที่โครงการแรก คือ
โครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา – อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง อยู่ใกล้เขตพื้นที่ห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลหลวง ซึ่งห่างจากบริเวณพื้นที่โครงการประมาณ 6 กม. และพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็นบริเวณที่มีการกำหนดเป็นเขตคุ้มครอง “โลมาอิรวดี”
ขณะที่โครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา ตำบลเกาะกลาง - ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เป็นบริเวณที่พบ “โลมาปากขวด” (Tursiops aduncus) และ “โลมาหลังโหนก” (Sousa chinensis) ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 อีกทั้งยังอาจกระทบแนวประปารังและหญ้าทะเลด้วย
พร้อมกันนี้ในการดำเนินโครงการอาจกระทบถึงกรณีแหล่งเงินกู้ที่จะนำมาใช้ในโครงการ หลังจาก นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้แจ้งในที่ประชุมครม.ว่า โครงการนี้กระทรวงการคลัง ได้ทาบทามขอกู้เงินธนาคารโลก แต่ติดปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม ที่ธนาคารโลกเป็นห่วงเรื่องการอนุรักษ์โลมาอิรวดี สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่เหลือเพียง 14 ตัวเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ ที่ประชุมครม. จึงมอบหมายให้กระทรวงการคลัง ประสานกับธนาคารโลกและหน่วยงานต่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อกำหนดแนวทางป้องกันผลจากโครงการก่อสร้างไม่ให้กระทบสัตว์ที่ต้องได้รับการคุ้มครองออกมาให้ชัดเจนต่อไป
ทั้งนี้ฐานเศรษฐกิจได้ตรวจสอบรายละเอียดทั้งสองโครงการ โดยเฉพาะเรื่องของรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) พบข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้
1.โครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา อำเภอกระแสสินธุ์ จังหวัดสงขลา - อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง
รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)
2.โครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา ตำบลเกาะกลาง และเกาะลันตา อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่
รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)