“ดร.นิเวศน์”เผย กลยุทธ์ คัดหุ้นเข้าพอร์ตในอีก 3 ปี

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า Value Investor (VI) บรรยาย ในหัวข้อ “คัดหุ้นเข้าพอร์ต ตั้งรับในอีก 3ปี” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง ของหลักสูตร "Wealth of Wisdom" หรือ “WoW” หลักสูตรเพื่อขุมทรัพย์แห่งปัญญา ว่า “การเล่นหุ้น คือการลงทุนตลอดชีวิต ระยะเวลา 3 ปี ยังถือว่าเป็นระยะสั้น” 

โดย ดร.นิเวศน์ ระบุว่า การลงทุนในหุ้น ควรมองที่ภาพใหญ่ เพราะนักลงทุน คือนักเลือก ต้องวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน ก่อนตัดสินใจเลือก ควรเลือกหุ้นที่เติบโตยาวนานไปได้เรื่อยๆ สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องได้ในระยะยาว และในธูรกิจที่เป็นเทรนด์ ต้องมองหาผู้ชนะ ของเทรนด์นั้นๆให้ได้ เพื่อเลือกลงทุนในบริษัทที่ถูกต้อง ทั้งนี้ การมองหาผู้ชนะ ต้องอาศัยประสบการณ์ การเรียนรู้ ต้องมองให้ออกว่า อะไรคือปัจจัยในการต่อสู้แข่งขัน ในธุรกิจนั้นๆ

ดร.นิเวศน์ ได้เล่าถึงที่มาของตนเอง ในการเข้าสู่การเป็น VI ว่า เริ่มต้นจากการตกงาน ในปี 2540 ทำให้ต้องมองหาทางออกของชีวิต ด้วยการมองหาการลงทุน ที่ใมช้เงินทำงานแทนตนเอง พบว่าหลายธุรกิจน่าสนใจ เพราะราคาถูกลงหมด แต่ตนเองเลือกลงทุนในหุ้น ที่ราคาลง แต่ธุรกิจ ไม่ได้รับผลกระทบ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำอัดลม หรือ ชุดชั้นในสตรี โดยลงทุนในหุ้น เสมือนเป็นธุรกิจของตนเอง จึงเป็นรูปแบบการถือยาว มากกว่า 10 ปี ในหุ้นใหญ่ๆ 6-7 ตัว 

กลยุทธ์ของ ดร.นิเวศน์ คือ วิเคราะห์ทุกอย่างจากยีนส์ หรือ พฤติกรรมความเป็นมนุษย์ เช่น การรักษาเผ่าพันธุ์ หรือ การเอาตัวรอด เป็นต้น โดยเชื่อว่า ธรรมชาติของมนุษย์ทั่วโลกนั้น เหมือนกันหมด หากไม่ถูกควบคุม ซึ่งสามารถนำมาวิเคร์เทรนด์ของธุรกิจ ที่จะเติบโตในอนาคตได้ ซึ่งการเลือกธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์ และเติบโตเร็วนั้น ก็ต้องรอบคอบในการมองผู้ชนะ เนื่องจาก จะมีคู่แข่งเข้ามาในธูรกิจเป็นจำนวนมากเช่นกัน

สำหรับตลาดหุ้นประเทศไทย ถือว่าเข้าใกล้ความอิ่มตัว มีความนิ่งมาระยะหนึ่ง เนื่องจาก ไม่มีหุ้นเมกะเทรนด์จริงๆ มีเพียงหุ้นสตอรี่ ซึ่งอาจทำให้เกิดการ corner หุ้น ซึ่งการที่จะจับ หรือฟ้องคนที่ทำ corner นั้น ถือว่ายากมาก ในขณะที่ ตลาดหุ้นเวียดนาม แม้ขณะนี้ราคาตก แต่กำลังมีเมกะเทรนด์เกิดขึ้น

ดร.นิเวศน์ กล่าวทิ้งท้าย ถึงการคัดหุ้นเข้าพอร์ตว่า ควรถือหุ้นให้เป็นเหมือนธุรกิจของเรา มองหาหุ้นที่เป็น super stock ถือระยะยาว ไม่ซื้อขายเพียงเพื่อเก็งกำไร เพราะหากเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี หากลงมาอย่างไร ก็จะกลับขึ้นไปได้ ส่วนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ของประเทศนั้น ดร.นิเวศน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับปัจจัย 3 ส่วน คือ 

• การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรประเทศ ก็จะส่งผลให้เกิดการบริโภค
• การที่ประชากรในประเทศ มีความเก่ง มีศักยภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีรายได้มากขึ้น นำมาสู่การอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้น
• ระบบการเมืองการปกครองที่เอื้อให้ประชากร อยากทำงาน อยากเติบโต เกิดการสร้างเศรษฐกิจ ไม่มุ่ง แต่การเก็งกำไร 

ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศไทย ยังต้องพัฒนา