ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 6 ธันวาคม 2565 รับทราบรายงานความคืบหน้า การพัฒนาระบบรองรับการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (Digital ID) เพื่อให้ประชาชนสามารถพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ทั้งกับหน่วยงานรัฐและเอกชน นอกจากการแสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงานเขต หรืออำเภอเพื่อรองรับการลงทะเบียนในการพิสูจน์ตัวตนด้วยตนเองโดยใช้ภาพใบหน้าตามระดับความน่าเชื่อถือของการพิสูจน์ตัวตน (Identity Assurance Level: IAL) ที่ระดับ IAL 2.3
โดยน.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าดังกล่าวว่า ระบบพิสูจน์ และยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าทางดิจิทัลที่กำลังพัฒนา ประกอบด้วย 2 ระบบ คือ
ซึ่งความคืบหน้าดังกล่าว แบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ ด้านกฎหมาย และ ด้านเทคโนโลยี สำหรับความคืบหน้าด้านกฎหมาย อาทิเช่น
นอกจากนี้ ครม. ยังรับทราบรายงานกรอบการขับเคลื่อน และแผนปฏิบัติการ การให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลประเทศไทย ระยะที่ 1 (2565-2567) โดยมีรายละเอียดกลยุทธ์หลัก 8 หลักการ คือ