ภายหลังจากที่รัฐบาล ได้อนุมัติโครงการ "ประกันรายได้เกษตรกร" ผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 รอบที่ 1 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ได้โอนเงินให้เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง มาจนถึง งวดที่ 8 ไปแล้วเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด วันที่ 9 ธันวาคม 2565 กรมการค้าภายใน นัดประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้มีมติ ในคราวประชุม เห็นชอบการกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่าง "ประกันราคาข้าว" ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 รอบที่ 1 ครั้งที่ 24/2565 (งวดที่ 9 ) ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ที่ระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 3-9 ธันวาคม 2565 นั้น
3 สมาคมชาวนา ประกอบด้วย นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาข้าวไทย ,นายวิชัย ชิตยวงศ์ นายกสมาคมส่งเสริมชาวนาไทย และนายธีร์วริศ พรพันธวิศ นายกสมาคมส่งเสริมเกษตรกรชาวนาอีสาน ก็เข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว อย่างพร้อมเพรียง ผลการเคาะราคาะ "ประกันรายได้ข้าว" งวดที่ 9 สำหรับข้าวเปลือกชนิดต่าง ๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้
นายธีร์วริศ กล่าวว่า เมื่อเปรียบเทียบราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงที่คำนวณได้ในงวดที่ 8 – 9 แล้ว พบว่า ราคาข้าวเปลือกทุกชนิด ปรับตัวสูงขึ้น
ด้าน สมาคมโรงสีข้าวไทย แจ้ง ราคาข้าวเปลือกและข้าวสาร ประจำวันที่ 9 ธันวาคม 2565
ตรวจสอบสถานะขั้นตอน-ช่องทางตรวจสอบเงิน ดังนี้
นอกจากนี้ยังเห็นชอบมาตรการคู่ขนาน ซึ่งเป็นมาตรการที่จะนำมาใช้ในช่วงที่ข้าวประดังออกสู่ตลาดมาก และจากกระทบให้ราคาข้าวในตลาดราคาตก มี 3 มาตรการประกอบด้วย
1. โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปี 2565/66 (จำนำยุ้งฉาง) เป้าหมาย 2.5 ล้านตัน จะช่วยชดเชยตันละ 1,500 บาท
2.สำหรับสถาบันเกษตรกรที่ชะลอขายข้าวจะช่วยดอกเบี้ย 3 % ตั้งเป้า 1 ล้านตัน 3.ช่วยโรงสีที่เก็บข้าวไว้ไม่ปล่อยออกสู่ตลาด จะช่วยดอก 3 % เป้าหมาย 4 ล้านตัน รวมวงเงิน 7,107 ล้านบาท
3.เห็นชอบให้ดำเนินการ ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในเรื่องต้นทุนและการบริหารจัดการข้าว หรือที่เรียกว่า ไร่ละ 1,000 รายละไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาทจำนวน 4.68 ล้านครอบครัว วงเงิน 55,364 ล้านบาท รวม 3 โครงการนี้เป็นวงเงินทั้งสิ้น 81,266 ล้านบาท