เซ็นทรัล ดัน แผน 1.2 แสนล้านปลุกเศรษฐกิจ นำทัพธุรกิจ รับโอกาสปี 2566
เซ็นทรัลพัฒนา ดัน เศรษฐกิจไทย ปี 2566 ไปต่อ! หลังเชื่อมั่นกำลังซื้อฟื้น ปลุกธุรกิจไทย ปรับตัว 3 ด้าน Transformation ,Urbanization และ Sustainability เข็นประเทศเติบโตหลังโควิด19 พร้อมแผนลงทุนใหญ่ 1.2 แสนล้าน ในระยะ 5 ปีข้างหน้า
14 ธ.ค.2565 - นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง แนวโน้มเศรษฐกิจไทย และ กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ ในเวที Go Thailand : ธุรกิจต้องไปต่อ งานสัมมนา Go Thailand : Recession or Resurrection ถดถอย VS พลิกฟื้น ซึ่งจัดโดย สื่อฐานเศรษฐกิจ ว่า วันนี้ต้องยอมรับว่า ทิศทางของประเทศต่างๆ อยู่บนความท้าทายของเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ขณะเซ็นทรัลพัฒนาเอง ซึ่งอยู่ระหว่างการฟื้นตัวของสถานการณ์โควิด-19 ที่ยื้ดเยื้อยาวนานถึง 2-3 ปี นั้น บริษัทไม่ได้กังวล เพราะได้ใช้เวลาดังกล่าว เรียนรู้จากความท้าทายข้างต้น รวมไปถึงปรับตัวกับ การแข่งขันที่สูงขึ้น และ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนฉับพลันแล้ว ทำให้ความท้าทายนั้น กลายเป็นทางรอดใหม่ๆ เพราะบริษัทเดินได้เร็วกว่าตลาด
โดยในกลยุทธ์นั้น หลังจากบริษัท ดำเนินธุรกิจมาแล้วมากกว่า 40 ปี โอกาสข้างต้นที่มองเห็น จึงไม่ได้หยุุดแค่ที่ระยะสั้น แต่มองถึงการเติบโตระยะยาว ภายใต้แผนการลงทุนใหญ่ 1.2 แสนล้านบาทในระยะ 5 ปีข้างหน้า (2022-2026) ครอบคลุม 30 จังหวัดทั่วประเทศ ดั่งที่ประกาศไปแล้ว
ซึ่งเมื่อมองไปที่ภาพใหญ่ ของนโยบายกระตุ้นและพัฒนาเศรษฐกิจของไทยโดยภาครัฐนั้น กลยุทธ์และแผนงานของบริษัทมีความสอดคล้องหลายด้าน เช่น แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ,การยกระดับศักยภาพเมืองรอง รวมถึง การพัฒนาเขตเศรษฐกิจอื่นๆ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ คาดจะเป็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจ
อย่างไรก็ดี ภายใต้การประเมินว่า ปี 2566 ภาคการท่องเที่ยวและบริการของไทยจะพลิกฟื้นกลับมานั้น สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจและประเทศไทยไปต่อได้ เห็นว่าควรมาจาก 3 ส่วนสำคัญ ดังนี้
1.Transformation การเรียนรู้ปรับตัว ทำสิ่งใหม่ๆ
โดยบริษัท อยู่ในฐานะนักพัฒนาอสังหาฯและค้าปลีกครบวงจร ในรูปแบบมิกซ์ยูส ปัจจุบัน มีศูนย์การค้า 38 แห่ง คอมมูนิตี้มอลล์ 17 แห่ง โครงการที่อยู่อาศัย 22 โครงการ โรงแรม 4 แห่ง และ อาคารสำนักงานอีก 10 แห่ง
"ใน 5 ปีข้างหน้า บริษัทวางแผนขยายทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจทั่วประเทศ เป้าหมายผู้ใช้บริการ 1.7 ล้านคน หรือ 620 ล้านคนต่อปี โดยใช้รูปแบบมิกซ์ยูสเชื่อมโยงทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ ให้เข้ากันอย่างลงตัว และใช้จุดแข็งด้านอิโคซิสเต็ม และ เดอะ วัน การ์ด เป็นแรงขับเคลื่อน ขณะเดียวกัน ไม่ได้เน้นแค่ผู้ใช้บริการ แต่ยังขยายไปสู่สังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย เพื่อมุ่งหวังพาประเทศไปด้วยกัน "
2.Urbaniztion การพัฒนาเมืองรองต่างๆ ก็มองว่าจะเป็นกำลังหลัก ช่วยกระจายความเจริญ และ พลิกฟื้นเศรษฐกิจ ช่วยเพิ่มการจ้างงาน สร้างอาชีพ และ รายได้ ทั่วประเทศ
" บริษัทอยากเห็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน พัฒนาคน พัฒนาเมือง และ พัฒนาประเทศไปด้วยกัน โดยสิ่งที่บริษัทกำลังดำเนินการ คือ การขยายธุรกิจไปยังพื้นที่ต่างๆ ซึ่งแต่ละแห่ง เพิ่มการจ้างงานในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 1,000 อัตรา ซึ่งตามแผน 5 ปี ก็จะเกิดเม็ดเงินกระจายสู่ท้องถิ่นมหาศาล และดึงศักยภาพของแรงงานใหม่ๆ รวมถึง ช่วยเหลือสร้างโอกาสเติบโตให้กับกลุ่ม SME ด้วย ผ่านการให้พื้นที่ค้าขาย กระตุ้นเชื่อมโยงแบรนด์เล็กให้พบปะกับแบรนด์ใหญ่ ให้เติบโตไปพร้อมกัน นอกจากนี้ บริษัทยังมีความตั้งใจ อยากชวนพันธมิตรและธุรกิจรายย่อยของไทย เติบโตไปพร้อมกันในระดับโลก อีกด้วย"
3. Sustainability การเติบโตอย่างยั่งยืนดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
"ความยั่งยืนของบริษัท อยู่ภายใต้เป้าหมาย เป็นองค์กร Net Zero ให้ได้ ภายในปี 2050 โครงการต่างๆ ที่วางแผนไว้กำลังถูกพัฒนา เช่น การใช้โซลาร์เซลล์ ,นโยบายการประหยัดพลังงาน , การลดขยะฝังกลบ ,การใช้พลังงานสะอาด ,ขยายสถานี EV ชาร์จ 38 สาขาทั่วประเทศ ,การปลูกต้นไม้เป้าหมาย 1 ล้านต้น ,การนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ และ การออกหุ้นกู้สีเขียว เป็นต้น "
อย่างไรก็ดี บริษัทเป็นเพียงฟันเฟืองหนึ่งของประเทศ จึงอยากเห็น การร่วมมือผลักดันของทุกภาคส่วนในสังคม คิดจริง ทำจริง และ ทำให้เร็วมากกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยทำให้ประเทศไทยฟื้นตัวได้เร็วในระยะข้างหน้า หลังจากประเมินว่า ปี 2566 จะเป็นปีแห่งการพลิกฟื้นของเศรษฐกิจไทยในทุกด้าน เพราะ 2-3 ปีที่ผ่านมา เจออุปสรรค ทั้งภาวะเงินเฟ้อ และ กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่ไม่สามารถดำเนินได้ในช่วงโควิด ซึ่งภาคบริการ -ท่องเที่ยว จะได้อานิสงส์มากกว่าส่วนอื่นๆ และจะเป็นแรงกระเพื่อมให้คนเกิดการจับจ่ายใช้สอย กระตุ้นภาคบริการค้าปลีกอีกด้วย
