เปิดเส้นทางการเงิน “นอท กองสลากพลัส” รับโอนเข้าบัญชีจริง

27 ม.ค. 2566 | 09:10 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ม.ค. 2566 | 09:10 น.

ความคืบหน้าตรวจสอบธุรกิจ “นอท กองสลากพลัส” หลังดีเอสไอ สอบเส้นทางการเงิน ตั้งปมเอี่ยวขบวนการฟอกเงิน ล่าสุดเจ้าตัวออกมาชี้แจงเส้นทางการเงินแล้ว ยอมรับมีเงินโอนเข้าบัญชีจริง

 

ค่อย ๆ มีความชัดเจนขึ้นมาเรื่อย ๆ กับกรณีการดำเนินธุรกิจของ บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด ผู้จำหน่ายลอตเตอรี่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ กองสลากพลัส ที่มีนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส” เป็นเจ้าของบริษัท หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบเส้นทางการเงิน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงิน

หลัง ดีเอสไอ พบข้อมูล 39 เส้นทางเงินของนายพันธ์ธวัช วงเงินกว่า 1,090 ล้านบาท ซึ่งเชื่อมโยงธุรกิจผิดกฎหมายโอนเข้าบัญชี ประกอบกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้ออกมาเปิดหนึ่งในเส้นทางการเงินที่น่าสงสัย โดยระบุว่า มีแคชเชียร์เช็คโยงไปถึงนอท กองสลากพลัส รวม 53 ล้านบาท

โดยมีรายงานว่าหนึ่งในบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงิน 53 ล้านบาท ได้เข้าพบนายพงษธร อินอำนวย ผู้อำนวยการศูนย์คดียาเสพติด ดีเอสไอ ขณะที่ทนายความของนอท ก็ได้เดินทางเข้าพบดีเอสไอ เพื่อมอบข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน 39 รายการแล้ว

ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวของ นายพันธ์ธวัช ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ชี้แจงเส้นทางเงิน 53 ล้านบาท ซึ่งเป็น 2 เส้นแรก แบ่งเป็นยอด 42 ล้านบาท และยอด 11 ล้านบาท โดยระบุว่า

ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 ต้องการเงินทุนจำนวนหนึ่ง หลังจากที่ขายฝากบ้าน คอนโด และรถไปจนหมดแล้ว โดยได้รู้จักนายหน้าเงินกู้หลายคน นายหน้าเงินกู้คนนึงได้พาไปหานายทุนกลุ่มหนึ่ง นายทุนทำท่าว่าจะสนใจลงทุน โดยมีข้อแม้ว่าจะขอดูขั้นตอนต่าง ๆ ในการทำงานทั้งหมด รวมถึงการขึ้นเงินรางวัล

ทางฝั่งนายทุนได้ส่งนาย อ. (อรรถกานต์) มาเป็นตัวแทนในการขึ้นเงินรางวัล ในวันที่ 3-6 สิงหาคม 2564 จึงได้ทำสัญญามอบอำนาจ และมอบสลากถูกรางวัลจำนวน 11,481 ใบ ให้นาย อ. ไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยให้เลขาพาไป และให้เลขาพานาย อ. ไปขึ้นทะเบียนเป็นผู้รับซื้อรางวัลของ สนง.สลาก ให้ถูกต้องตามขั้นตอนด้วย

หลังจากนาย อ. นำสลากขึ้นเงินรางวัลเรียบร้อย นาย อ. ได้เช็คจาก สนง.สลากมา 2 ยอด คือ 1. ยอด 42,381,030 บาท และ 2. ยอด 11,207,690 บาท หลังจากนาย อ. ได้เช็คจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้ว นาย อ. ได้นำเช็คทั้งสองใบมาที่ธนาคารกรุงไทย สาขา สนง.สลากกินแบ่งรัฐบาล

จากนั้น นาย อ. ได้เปลี่ยนเช็คจากชื่อของตัวเอง เป็นเช็คสั่งจ่ายในชื่อนายพันธ์ธวัช 2 ยอด ซึ่งเท่ากันกับที่สำนักงานสลากฯ จ่ายให้นาย อ. คือ ยอด 42 ล้านบาท และ 11 ล้านบาท แต่นาย อ. ไม่สามารถเอาเงินเข้าเช็คให้ตัวเองได้ เพราะบัญชีธนาคารของตนเป็นบัญชี ธนาคารกสิกรไทย เนื่องจากติดวันเสาร์-อาทิตย์ 

นาย อ.จึงจำเป็นต้องเอาเช็คเข้าให้ตนเองในวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ช่วงบ่าย สุดท้ายกว่าเช็คจะเคลียร์ริ่งให้ข้ามวัน ทำให้เงินทั้ง 2 ยอดเข้าบัญชีในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 

หลังจากที่ทดลองระบบแล้วเราไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากนายทุนมองว่าความเสี่ยงมันสูงเกินไป ดีลนี้จึงจบแค่นี้ จึงขอยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน 

สำหรับคำถามที่ว่าทำไมผมถึงไว้ใจให้นาย อ. เอาเงินไปขึ้นคำตอบคือ ต้องการเงินทุนมากเพราะต้องการซื้อลอตเตอรี่มาขาย เลยจำเป็นต้องยอม และเลขาผมอยู่ด้วยตลอดเวลาจนเปลี่ยนเช็คเป็นชื่อตนเอง 

อย่างไรก็ตามหลังจาก นายพันธ์ธวัช ได้โพสต์ข้อความชี้แจงเรื่องดังกล่าวไป ก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก