การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 14 ก.พ.2566 มีเรื่องน่าฮือฮาอีกครั้ง หลังที่ประชุมครม. มีมติอนุมัติหลักการการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นของ สำนักงานอัยการสูงสุด โดยให้ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลางฯ จำนวน 1,480,600 บาท
ทั้งนี้ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ การบริหารจัดการคดี และการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ พ.ศ. 2565 ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2566
โดยเฉพาะเงินเบี้ยเลี้ยง ค่าที่พัก ค่าพาหนะ และค่าเดินทางไปต่างประเทศ ของเจ้าหน้าที่ด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
เปิดค่าใช้จ่ายเจ้าหน้าที่ 1.4 ล้าน
สาระสำคัญของค่าใช้จ่ายดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ กำหนดรายละเอียดเอาไว้เป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ดังนี้
1. ค่าเบี้ยเลี้ยง
2. ค่าเช่าที่พัก
3. ค่าพาหนะ (ค่าโดยสารเครื่องบินภายในประเทศและค่าเช่ารถตู้โดยสารเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารจัดการคดีและการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหาย)
4. ค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ
5. ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวแถวเอเชีย/ตะวันออกกลางเพื่อติดตามคดี (สำหรับข้าราชการอัยการระดับ 3 และระดับ 4 ประกอบด้วยค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าเช่าที่พัก ค่าเบี้ยเลี้ยง และค่าพาหนะเดินทางไปสนามบิน)
เหตุผลความจำเป็นของเรื่อง
สำนักงานอัยการสูงสุด รายงานว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (คณะกรรมการ ปกค.) มีมติเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2565 เห็นชอบแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกส่งต่อระดับชาติ การบริหารจัดการคดี และการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ พ.ศ. 2565
เพื่อให้มีแนวทางปฏิบัติในการยกระดับมาตรฐานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
ต่อมาที่ประชุมคณะกรรมการ ปกค. ครั้งที่ 4/2565 เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 ได้มีมติเห็นชอบการจัดทำความต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ รวมจำนวน 82,940,791 บาท โดยให้หน่วยงานจัดทำคำขอรับการสนับสนุนงบประมาณตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลางฯ
ติงใช้ให้เป็นประโยชน์กับประชาชน
สำนักงานอัยการสูงสุด รายงานว่า สำนักงานอัยการสูงสุด มีหน้าที่ในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการดังกล่าว โดยมีทั้งการให้คำปรึกษา แนะนำ เข้าร่วมสอบสวนตามที่พนักงานสอบสวนและกรมสอบสวนคดีพิเศษร้องขอ รวมทั้งมีบทบาทหน้าที่ในคดีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติ คดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร และการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ
ดังนั้น สำนักงานอัยการสูงสุด จึงขอรับการจัดสรรงบประมาณจากรายจ่ายงบกลางฯ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2566 จำนวน 1,480,600 บาท
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมครม. ได้ขอให้สำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติครม. และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการ และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ