ไทม์ไลน์ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ล่าสุดจากกระทรวงการคลัง ครบจบที่เดียว

28 ก.พ. 2566 | 10:25 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ก.พ. 2566 | 10:35 น.

เช็คไทม์ไลน์ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566" ล่าสุด คลังเปิด 3 ช่องทางตรวจสอบคุณสมบัติ "ผ่าน-ไม่ผ่าน" ได้ทุกวัน เริ่ม 1 มี.ค.66

โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 ล่าสุดกระทรวงการคลังเผยผลการพิจารณาคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ส่งข้อมูลผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการฯ) ปี 2565 ที่มีสถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์ให้หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณสมบัตินั้น การดำเนินการในขั้นตอนดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว

คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (คณะกรรมการฯ) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบหลักในโครงการฯ ได้กำหนดวันประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติโครงการฯ ปี 2565 ในวันที่ 1 มีนาคม 2566 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

ผู้ลงทะเบียนที่มีสถานะการลงทะเบียน "สมบูรณ์" สามารถตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ 3 ช่องทาง ดังนี้ 

1.ผ่านทางเว็บไซต์ 

โดยสามารถตรวจสอบผลการพิจารณาได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน

2.หน่วยงานรับลงทะเบียน

  • สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 
  • ธนาคารออมสิน 
  • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 
  • สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ
  • สังกัดกรมบัญชีกลาง
  • ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย
  • สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต
  • ศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา

ทั้งนี้ ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงานสำหรับการตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยงานรับลงทะเบียนแต่ละแห่ง

3.โทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

  • สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง 
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 
  • Call Center โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 

ในวันจันทร์ – วันศุกร์ตามเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน

ขั้นตอนผู้ลงทะเบียน "ผ่านเกณฑ์" การตรวจสอบ

ขั้นตอนที่ 1

ต้องยืนยันตัวตน ณ ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. โดยสามารถยืนยันตัวตนได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ให้นำบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนด้วย ณ ธนาคารดังกล่าวตามวันและเวลาทำการของแต่ละธนาคาร

ขั้นตอนที่ 2

เมื่อยืนยันตัวตนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะสามารถตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตนของตนเองผ่านทางเว็บไซต์ดังกล่าวข้างต้นในวันถัดไป หรือติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ขั้นตอนที่ 3

ธ.ก.ส. และธนาคารออมสินจะให้บริการยืนยันตัวตนเป็นเวลา 180 วันนับจากวันที่ประกาศผลการพิจารณาคุณสมบัติ (วันที่ 1 มีนาคม – 27 สิงหาคม 2566) และธนาคารกรุงไทยฯ จะให้บริการยืนยันตัวตน โดยยังไม่มีกำหนดวันสิ้นสุดการให้บริการ

สำหรับการยืนยันตัวตนในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละธนาคาร

ขั้นตอนที่ 4

ดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชนเพื่อรับสิทธิสวัสดิการ โดยสามารถผูกบัญชีพร้อมเพย์กับธนาคารใดก็ได้ ทั้งนี้ การผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้ล่วงหน้า จะทำให้ผู้ได้รับสิทธิสะดวกในการรับสิทธิสวัสดิการหากกรณีที่ภาครัฐมีสวัสดิการที่จะโอนเข้าบัญชีในอนาคต

หากพบว่าสถานะการยืนยันตัวตนสมบูรณ์ ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติจึงจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566

ในกรณีที่ผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติที่ยืนยันตัวตนสำเร็จตั้งแต่วันที่ 1 – 26 มีนาคม 2566 และในกรณีผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติที่ยืนยันตัวตนหลังวันที่ 26 มีนาคม 2566 จะได้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด

สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐในปัจจุบันจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2566 เท่านั้น

กรณีผู้ลงทะเบียน "ไม่ผ่านเกณฑ์" การตรวจสอบมีขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1

ยื่นขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. – 1 พ.ค.66 ผ่าน 2 ช่องทาง

ผ่านทางเว็บไซต์ ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน

ผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ดังนี้

  • ธนาคารออมสิน 
  • ธนาคารกรุงไทยฯ 
  • ธ.ก.ส. 
  • สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด 
  • ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ 
  • สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร 
  • ศาลาว่าการเมืองพัทยา

ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน 

ขั้นตอนที่ 2 

ให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนเป็นผู้ดำเนินการยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติโดยแสดงบัตรประจำตัวประชาชนกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนก่อนดำเนินการยื่นอุทธรณ์

ขั้นตอนที่ 3 

ต้องดำเนินการขอตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้วยตนเอง หรือเป็นไปตามเงื่อนไขที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติกำหนด เพื่อขอปรับปรุงหรือแก้ไขข้อมูลในกรณีที่ข้อมูลไม่ถูกต้องให้ถูกต้อง โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 พ.ค.66