“เงินดิจิทัล10000” ปรับเงื่อนไขใช้จ่ายในอำเภอ ตามรหัสไปรษณีย์

21 ต.ค. 2566 | 06:00 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ต.ค. 2566 | 05:58 น.

คณะอนุฯ เงินดิจิทัล 10000 บาท ปรับเงื่อนไข ขยายขอบเขตรัศมีการใช้จ่ายจาก 4 กม. เป็นภายในเขตอำเภอ ตามที่อยู่ในภูมิลำเนา เหตุมีรหัสไปรษณีย์ตรวจสอบได้ รอ "เศรษฐา" เคาะ 24 ต.ค.นี้

คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงินดิจิทัล10000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ตกำลังพิจารณาเงื่อนไขการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ตว่า จะให้มีการใช้จ่ายภายในขอบเขตอำเภอในภูมิลำเนาที่อยู่อาศัย เนื่องจากสามารถตรวจสอบได้จากรหัสไปรษณีย์ ทั้งประชาชนที่เป็นผู้จ่ายเงินซื้อสินค้า และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงินดิจิทัล10000 ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องเงื่อนไขการใช้จ่ายเงินดิจิทัล วอลเล็ต แต่ที่ชัดเจนคือ จะขยายขอบเขตจากรัศมี 4 กิโลเมตร โดยอาจจะเป็นการใช้จ่ายภายในอำเภอ หรือตำบลก็ได้ ซึ่งจะสรุปชัดเจนอีกครั้งในวันที่ 19 ตุลาคมรวมถึงเงื่อนไขการใช้จ่ายต่างๆ ด้วย

ขณะที่เงื่อนไขการใช้จ่ายในรัศมี 4 กิโลเมตรนั้น ได้มีการยกเลิกเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะใช้ตัวเลือกใด ระหว่างการใช้จ่ายในเขตตำบล อำเภอ และจังหวัด เป็นต้น
 

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทางการคลังในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10,000 ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต

“รัฐบาลรับฟังทุกเสียงทักท้วง ที่รับฟังหลักเลยคือ หากเราต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ในกลุ่มคนรวยที่สุด เขาจะร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจจริงหรือไม่ หรือเพียงแค่ทดแทนกระบวนการใช้เงินปกติในวงเงินที่เค้าเคยมีเท่านั้น เราจึงต้องมาพิจารณาว่า ใครที่จำเป็น หรือไม่จำเป็น แล้วจะพิจารณาจากอะไรว่า ใครรวยใครจน จะดูจากรายได้ที่แจ้งกรมสรรพากรหรือจากยอดเงินในบัญชี หรือจำนวนที่ดิน ซึ่งกลไกเหล่านี้ต้องมีตัวชี้วัด สามารถตอบได้ทางวิทยาศาสตร์” นายจุลพันธ์กล่าว

อาจเลื่อนแจกเงินดิจิทัล10000

19 ตุลาคม 2566 นายจุลพันธ์ กล่าวว่า การดำเนินโครงการเงินดิจิทัล10000 ยืนยันว่า ประชาชนจะได้ใช้เงินดิจิทัลในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 แน่นอน แต่สุดท้ายหากสุดท้ายจะไม่ทันด้วยข้อจำกัดที่ไม่สามารถควบคุมได้ โดยเฉพาะการต้องนำความเร็วไปแลกกับความปลอดภัย ตนก็พร้อมที่จะไปบอกกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังด้วยข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่าไม่ทัน

นายจุลพันธ์  ยอมรับว่าเงินดิจิทัล10000 ที่จะออกมา อาจจะแตกต่างไปจากตอนหาเสียงไว้บ้าง เนื่องจากตอนนี้รัฐบาลเป็นรัฐบาลผสม ก็ต้องหาจุดร่วมที่เหมาะสม อย่างไรก็ดี ยังตั้งเป้าที่จะเริ่มการเติมเงิน 10,000 บาท ให้ได้ในวันที่ 1 ก.ย. 2567 โดยจะพยายามทำตามเป้าที่ตั้งไว้

อย่างไรก็ตามหากไม่ทันจริง ๆ จำเป็นต้องเลื่อน เพราะมีข้อจำกัด ที่ต้องทำระบบต่าง ๆ ให้เกิดความมั่นใจ อาทิ ระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ ก็คงต้องเลื่อน และเชื่อว่านายกรัฐมนตรีก็คงไม่ติดใจ หากเลื่อนด้วยเหตุผลที่จำเป็น เช่น แอปพลิเคชั่นต้องใช้เวลาพัฒนา หรือเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล ความมั่นคงของระบบ ซึ่งเรื่องเหล่านี้แลกกับเวลาไม่ได้

"ตอนนี้ยังไม่ได้หมายความว่าจะเลื่อน แต่ไตรมาสแรกจะพยายามทำให้ได้" นายจุลพันธ์กล่าว่า

เงื่อนไขเงินดิจิทัล10000

นายจุลพันธ์กล่าวว่า สำหรับเงื่อนไขและเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ในเบื้องต้น ดังนี้

  • การรับสิทธิโครงการไม่ต้องมีการลงทะเบียน แต่ประชาชนยังต้องยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
  • ผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการรัฐที่ดำเนินการมาแล้วก่อนหน้านี้กว่า 40 ล้านคน ไม่ต้องยืนยันตัวตนใหม่ สามารถเริ่มต้นใช้จ่ายผ่านโครงการได้เลย
  • ผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการรัฐ และผู้ที่มีอายุไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ จะต้องยืนยันตัวตนอีกครั้ง เพื่อดำเนินการในขั้นตอน KYC

“ผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการรัฐผ่านแอปพลิเคชันใดๆ และมีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ยังมีความจำเป็นต้องยืนยันตัวตน ผ่านช่องทางสถาบันการเงินของรัฐ และใช้บัตรประชาชน ผ่านกลไกของรัฐที่กำหนด”นายจุลพันธ์กล่าว

ระยะเวลายืนยันตัวตนเงินดิจิทัล10000

สำหรับระยะเวลาในการเปิดยืนยันตัวตน และลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการของร้านค้าจะดำเนินการก่อนที่จะเปิดให้ประชาชนเริ่มใช้จ่ายได้ โดยมีระยะเวลายืนยันตัวตนนานเป็นเดือน ซึ่งกำหนดการใช้จ่ายเดิมนั้น คือ 1 ก.พ. 2567 หากมีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความล่าช้า ก็จะพยายามให้ไม่เกินช่วงไตรมาส 1 ของปี 2567

ส่วนกรณีกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุที่ไม่สะดวกเดินทางมายืนยันตัวตนเองได้นั้น ทางคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเงินดิจิทัลฯ จะไปหาข้อสรุปร่วมกันอีกครั้ง