“เศรษฐา”โต้ใช้เงินหมื่นล้านทำซุปเปอร์แอปแจกเงินดิจิทัล

17 ต.ค. 2566 | 09:59 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ต.ค. 2566 | 11:16 น.

แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท วุ่น นายกฯ “เศรษฐา” โต้ข้ามประเทศ ระบุบริษัท XPG ไม่มีเอี่ยวรับงานทำเงินดิจิทัล พร้อมปัดใช้เงิน 12,000 ล้านบาท ทำซุปเปอร์แอป

วันนี้ (17 ตุลาคม 2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ระหว่างการเดินทางมาประชุมที่ประเทศจีน ถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า รัฐบาลจะจ้างบริษัทในเครือข่ายของนายกฯ จัดทำแอปพลิเคชั่นรองรับการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยใช้งบประมาณมากถึง 12,000 ล้านบาท 

โดยนายกฯ ยืนยันว่า ไม่มีการจ้างเป็นหมื่นล้านบาท แต่เป็นตัวเลขที่น้อยมาก และไม่ใช่ประเด็นแน่นอน พร้อมยืนยัน ไม่มีเรื่องค่าคอมมิชชั่น ไม่มีการหักเบี้ยใบ้รายทาง หรือถูกหักเงิน 3%

ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าเป็นการจ้างบริษัทในเครือข่ายของตนนั้น ขอให้ระบุชื่อมาให้ชัด เพราะแสนสิริไม่ได้ทำแอปพลิเคชันแน่นอน ส่วนบริษัทเอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) ที่ตนเคยเป็นกรรมการอยู่ ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน ขอให้บันทึกว่า 2 บริษัทดังกล่าวไม่ได้เข้ามารับงาน

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

เมื่อถามว่า การกล่าวหาลักษณะนี้เหมือนเป็นการจงใจมากเกินไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะตนเป็นบุคคลสาธารณะ ต้องพร้อมสำหรับการชี้แจงและตรวจสอบได้ โดยมั่นในว่า นโยบายนี้เป็นนโยบายที่ดี ส่งผลกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม และให้ประโยชน์กับประชาชน เรามั่นใจในความโปร่งใสของนโยบายนี้

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีมีความมั่นใจในข้อมูล แต่เหตุใดจึงไม่เลือกชี้แจงให้สังคมเข้าใจ นายกฯ ระบุว่า อยากให้คณะกรรมการศึกษาเงินดิจิทัลฯ ซึ่งประกอบด้วยผู้ชำนาญการจากหลายฝ่าย มีข้าราชการระดับสูง ซึ่งเห็นตรงและเห็นต่างกันบ้าง มีข้อแนะนำต่าง ๆ ได้มีสิทธิ์พูด เพราะเรามีคณะกรรมการกลั่นกรองอย่างถี่ถ้วน ขอเวลาให้ได้ถกกันให้ดี ซึ่งต้องให้เกียรติกรรมการทุกคน 

ส่วนการชี้แจงอาจจะช้าก็น้อมรับ ซึ่งไม่อยากพูดอะไรเร็วเกินไป แต่หากมีประเด็นขึ้นมาตนก็พร้อมชี้แจง โดยเชื่อมั่นว่าหากทุกอย่างมีความพร้อม จะทำให้หมดสงสัย ยืนยันว่าทุกๆ ข้อสงสัย ทุกๆ คำแนะนำ จะถูกนำไปพิจารณาและปรับปรุงเพื่อให้เป็นนโยบายที่ดีที่สุด ปราศจากเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบ

ส่วนความชัดเจนจะเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจง