จากรณีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้แจ้งข้อหา สองพ่อลูก คือ นายวิรัช ภูริฉัตร อายุ 69 ปี กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท เว้ลท์ซี่ แอนด์ เฮ็ลธ์ซี ฟูดส์ จำกัด WEALTY & HEALTHY FOODS CO.,LTD. และบริษัท เดอะ กู๊ด ช็อป จำกัด THE GOOD SHOP CO.,LTD และ นายธนกฤต ภูริฉัตร อายุ 42 ปี ฐานหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากร โดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้นๆ โดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้นและนำเข้า ส่งออกหรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์
โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ตามกฎหมาย พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243 มาตรา 244 และ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 31 ประกอบมาตรา 68 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566
ล่าสุด 20 พฤศจิกายน 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ร่วมกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) แถลงความคืบหน้าทางคดี โดย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ขณะนี้ดีเอสไอ ได้สอบสวนดำเนินคดี และออกหมายจับ บุคคล 8 ราย ที่เป็นผู้นำเข้า หรือ ชิปปิ้ง
และได้ขยายผลไปยังแถว 2 ที่เป็นผู้จ่ายเงิน หรือนายทุน รวมถึงดำเนินคดีกับผู้ที่อยู่เบื้องหลัง หากมีพยานหลักฐาน พร้อมยืนยันจะมีการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง
สำหรับเนื้อสุกรลักลอบที่ตรวจพบแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 2,385 ตู้ ซึ่งได้กระจายห้องเย็นต่างๆ โดยทางดีเอสไอจะติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำเนินคดีทั้งหมด
ด้าน พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามยึดทรัพย์ ขบวนการหมูเถื่อนว่า คณะกรรมการธุรกรรม ได้มีมติยึดทรัพย์ เป็นคำสั่ง ย.226/2566 ออกเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน
โดยเป็นการยึดทรัพย์ กลุ่มที่ 1 คือ กลุ่มชิปปิ้งนำเข้า และผู้บริหารเป็นจำนวนเงินรวม 53 ล้านบาท โดยหลังจากนี้ปปง.จะตรวจสอบธุรกรรมทางการเงิน รวบรวมข้อมูลส่งให้กับดีเอสไอ เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มนายทุน และผู้จัดจำหน่ายต่อไป
โดยต้องรอผลการดำเนินคดีซึ่งถูกแยกออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่มีพยานหลักฐานชัดเจนถูกดำเนินคดีอาญา และอีกกลุ่มคือกลุ่มผู้มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ ได้รับทรัพย์สินจากกลุ่มผู้ต้องหาแล้วนำทรัพย์ไปเปลี่ยนแปลงเป็นรูปแบบอื่นๆ หรือดำเนินการฟอกเงิน
พล.ต.ต.เอกรักษ์ กล่าวว่า ภายใน 2-3 สัปดาห์นี้จะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติม กลับนายทุนและกลุ่มผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง และนำไปสู่การดำเนินการยึดทรัพย์ ในกลุ่มที่ 2 ต่อไป พร้อมย้ำว่า ตั้งแต่ปี 64-65 ตรวจพบการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนเป็นจำนวนมาก จึงต้องร่วมมือกับดีเอสไอในการแกะรอย เพื่อให้ขบวนการหมูเถื่อนหมดไปจากประเทศไทยให้ได้
สำหรับ นายสมนึก กยาวัฒนกิจ (บริษัท เรนโบว์ กรุ๊ป จำกัด) ผู้ต้องหาคดีหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด(มหาชน)หรือ MORE พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้นัดหมายเข้าพบเจ้าหน้าที่ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ในคดีที่มีความเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ในฐานะของนายทุน หรือผู้จ้างวานบริษัทชิปปิ้ง
ทั้งนี้ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ได้ยืนยันว่า หากการขยายผลเส้นทางการเงิน ของขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนเกี่ยวพันไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐ ก็จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งมาตรา 157 และความผิดมูลฐานตามกฏหมายปปง. ที่จะต้องดำเนินคดีต่อเนื่องไปจากคดีอาญา
โดยหากพบผู้ใดเกี่ยวข้องและมีหลักฐานไปถึงจะถูกดำเนินคดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับใดก็ตาม และอีกส่วนหนึ่ง สำนักงานปปง. จะรวบรวมพยานหลักฐานไปร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินคดีฟอกเงินต่อไป