สนค. คาดปี 67 ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวเพิ่ม-เงินเฟ้อทั่วไปชะลอตัว

02 ก.พ. 2567 | 04:43 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.พ. 2567 | 05:37 น.

สนค. เผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปี 67  ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไป คาดว่าจะชะลอตัวต่อเนื่อง เพราะภาครัฐมีแนวโน้มดำเนินมาตรการลดค่าครองชีพ

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ภาพรวมดัชนีเศรษฐกิจการค้าเฉลี่ยปี 2566 โดยดัชนีราคาผู้บริโภค ราคาวัสดุก่อสร้าง ราคาส่งออก และค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน ขยายตัวไม่มากนักและชะลอตัวจากปี 2565 อย่างชัดเจน ด้านดัชนีราคาผู้ผลิต และราคานำเข้า ลดลงจากปี 2565 ซึ่งการชะลอตัวและลดลงของดัชนีราคา เพราะว่าเป็นผลจากการลดลงของราคาพลังงาน การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และมาตรการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของภาครัฐ

อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ปรับตัวเพิ่มขึ้นและอยู่ในระดับที่มีความเชื่อมั่นตลอดทั้งปี โดยปี 2567 คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภค และดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างจะชะลอตัวลงจากปี 2566

ส่วนดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน  ไตรมาสแรกของปี 2567 คาดว่าจะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 จากมาตรการช่วยเหลือด้านพลังงานของภาครัฐที่มีต่อเนื่องจากปี 2566

สนค. คาดปี 67 ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวเพิ่ม-เงินเฟ้อทั่วไปชะลอตัว ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต ราคาส่งออก และราคานำเข้า คาดว่าจะขยายตัวเล็กน้อย ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นและอยู่ในช่วงความเชื่อมั่น จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทย และภาคการส่งออกที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. ดัชนีราคาผู้บริโภค เฉลี่ยทั้งปี 2566 เมื่อเทียบกับปี 2565 สูงขึ้น 1.23% ชะลอตัวค่อนข้างมากจากปี 2565 ที่สูงขึ้น 6.08%  เพราะราคาสินค้าบางกลุ่มปรับลดลง อาทิ น้ำมันเชื้อเพลิง มาตรการลดค่าครองชีพของภาครัฐ รวมถึงเนื้อสุกร และเครื่องประกอบอาหาร อย่างไรก็ดีเนื่องจากราคาสินค้าส่วนใหญ่ยังคงปรับสูงขึ้นตามการบริโภคที่ขยายตัวต่อเนื่อง ปี 2566 จึงยังไม่มีสัญญาณที่สะท้อนว่าภาวะเศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ภาวะเงินฝืด

สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2567 คาดว่าจะชะลอตัวต่อเนื่องจากปี 2566 และอยู่ในระดับต่ำ ระหว่าง 0.3% – 1.7% เนื่องจากภาครัฐมีแนวโน้มดำเนินมาตรการลดค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง

2. ดัชนีราคาผู้ผลิต เฉลี่ยทั้งปี2566  เทียบกับปี 2565 ลดลง 2.4% ตามราคาพลังงานในตลาดโลกที่ปรับลดลง ส่งผลให้ราคาสินค้ากลุ่มปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องลดลงค่อนข้างมาก ประกอบกับจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ไม่ฟื้นตัว การแข็งค่าของเงินบาท และภาคการส่งออกที่ลดลง ส่งผลให้ทั้งผลผลิตและราคาสินค้าในภาคอุตสาหกรรมของประเทศ โดยเฉลี่ยปรับลดลงกว่าปี 2565

อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์อาหารยังคงปรับตัวสูงขึ้น จากความกังวลด้านความมั่นคงทางอาหารที่เกิดขึ้นทั่วโลกจากสภาพอากาศแปรปรวน

สำหรับแนวโน้มปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวเล็กน้อย จากภาคการส่งออกที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ และฐานราคาปี 2566 ที่อยู่ระดับต่ำ

3. ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เฉลี่ยทั้งปี 2566 เทียบกับปี 2565 สูงขึ้น 0.1% ชะลอตัวค่อนข้างมากจากปี 2565 ที่สูงขึ้น 5.7% โดยได้รับแรงกดดันจากราคาสินค้าหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ที่ได้รับผลกระทบ

จากปริมาณเหล็ก ที่เกิดจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของจีน กดดันให้ราคาเหล็กปรับลดลงทั้งตลาดโลกและไทย ประกอบกับช่วงไตรมาสที่ 4 ภาคอสังหาริมทรัพย์ของไทยได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น และการลงทุน

สำหรับแนวโน้มปี 2567 คาดว่าจะทรงตัวและอยู่ระดับใกล้เคียงกับปี 2566 โดยมีปัจจัยกดดันจากปัญหาหนี้สินครัวเรือน อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ระดับสูง รวมทั้งการลงทุนภาครัฐที่ล่าช้าจากการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งที่อาจลดลงจากมาตรการของภาครัฐ

4. ดัชนีราคาส่งออก เฉลี่ยทั้งปี 2566 เทียบกับปี 2565 สูงขึ้น 1.1% ชะลอตัวจากปี 2565 ที่สูงขึ้น

4.2% เนื่องจากความต้องการสินค้าในภาพรวมชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลก ประกอบกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ได้ส่งผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนโลกชะลอตัวอย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าเกษตรกรรมปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากปริมาณผลผลิตได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง

ส่วนแนวโน้มปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามต้นทุนด้านพลังงานและค่าขนส่งที่ยังอยู่ในระดับสูง จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายพื้นที่ และวัฏจักรการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะกลับมาขยายตัวตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น

สนค. คาดปี 67 ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวเพิ่ม-เงินเฟ้อทั่วไปชะลอตัว 5. ดัชนีราคานำเข้า เฉลี่ยทั้งปี 2566 เทียบกับปี 2565 ลดลง 0.9% จากปี 2565 ที่สูงขึ้น 11.1% ตามการลดลงของราคานำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงเป็นสำคัญ สำหรับแนวโน้มปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามราคาวัตถุดิบนำเข้า และราคาพลังงานที่อาจปรับตัวสูงขึ้น ตามความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก ประกอบกับฐานราคาปี 2566 ที่อยู่ระดับต่ำ

6. อัตราการค้า (Term of Trade) ของไทย ซึ่งเป็นตัวชี้วัดรายได้จากการส่งออกเทียบกับรายจ่ายจากการนำเข้า ทยอยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากปี 2565 โดยในเดือนธันวาคม 2566 อยู่ที่ 99.4% อย่างไรก็ตาม อัตราการค้าตลอดปี 2566 อยู่ระดับต่ำกว่า 100 สะท้อนว่า ประเทศไทยมีความเสียเปรียบทางโครงสร้างราคาระหว่างประเทศ  เนื่องจากรายจ่ายจากการนำเข้าสูงกว่ารายได้จากการส่งออก และคาดว่าปี 2567 จะอยู่ระดับต่ำกว่า 100 ต่อไปอีกระยะหนึ่ง

7. ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนเฉลี่ยทั้งปี 2566 เทียบกับปี 2565 สูงขึ้นร้อยละ 1.9 (AoA) จากความต้องการขนส่งสินค้าทางถนนที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และการสูงขึ้นของค่าแรง อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงจากตลาดโลกซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการให้บริการขนส่งทางถนน และมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ ส่งผลให้ดัชนีฯ ชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 2 และ 3 และหดตัวในไตรมาสที่ 4 ตามลำดับ สำหรับแนวโน้มในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 คาดว่าจะลดลง เนื่องจากมาตรการช่วยเหลือด้านพลังงานของภาครัฐที่คาดว่าจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

สนค. คาดปี 67 ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวเพิ่ม-เงินเฟ้อทั่วไปชะลอตัว

8. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเฉลี่ยทั้งปี 2566 อยู่ที่ระดับ 54.2 อยู่ในช่วงเชื่อมั่น (สูงกว่าระดับ 50) และปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 46.2 ปี 2565 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคมากที่สุดตลอดปี 2566 คือ ด้านเศรษฐกิจไทยที่มีทิศทางฟื้นตัว และมาตรการทางเศรษฐกิจของภาครัฐที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง สำหรับแนวโน้มปี 2567 คาดว่า

จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากปี 2566 และอยู่ในช่วงความเชื่อมั่น ตามภาวะเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องโดยได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยว และการส่งออกที่จะปรับตัวดีขึ้น

แม้ดัชนีเศรษฐกิจการค้าส่วนใหญ่ในปี 2567 จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระดับที่ไม่สูงมากนัก แต่ยังคงมีปัจจัยที่อาจทำให้ดัชนีเศรษฐกิจการค้าไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ อาทิ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าสำคัญ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ภัยธรรมชาติ และมาตรการภาครัฐ

โดยทาง สนค. จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ดัชนีเศรษฐกิจการค้ามีความถูกต้อง แม่นยำ สอดคล้องกับสถานการณ์ และสามารถนำไปใช้ประกอบการดำเนินมาตรการต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สนค. คาดปี 67 ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวเพิ่ม-เงินเฟ้อทั่วไปชะลอตัว