นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการส่งเสริมผ้าขาวม้าไทยว่า หลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำเสนอการใช้ผ้าขาวม้าไทย มีผลทำให้ผ้าขาวม้าไทย เกิดเป็นกระแส “ผ้าขาวม้าฟีเวอร์” เป็นที่รับรู้และรู้จักในวงกว้าง
รัฐบาลจึงเดินหน้าส่งเสริมและต่อยอดผ้าขาวม้าไทย โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการต่อยอด ส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการผู้ผลิตผ้าข้าวม้าให้มีความเข้มแข็ง เพื่อสร้างรายได้ ขยายโอกาสการสร้างอาชีพให้คนในชุมชน ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจท้องถิ่นมีความแข็งแกร่ง เน้นโชว์จุดเด่น คือ ใช้หน้าร้อนเย็นสบาย ใช้หน้าหนาวช่วยให้อบอุ่น
นายชัย กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญในการผลักดันผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเฉพาะผ้าขาวม้าที่เป็นผ้าสารพัดประโยชน์ที่อยู่คู่กับคนไทยมาทุกยุคทุกสมัย สนับสนุนการดำเนินกิจกรรมที่จะช่วยเผยแพร่อัตลักษณ์ภูมิปัญญาไทยที่โดดเด่น
โดยความสำเร็จที่เห็นได้ชัดคือ รัฐบาลสามารถผลักดันผ้าขาวม้าขึ้นห้างในเครือเซ็นทรัล เครือสยามพิวรรธน์ เครือเดอะมอลล์ และบริษัท King Power รัฐบาลเชื่อมั่นว่า การเพิ่มโอกาสทางการตลาด จะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการได้ในระยะยาว
โดยกระทรวงพาณิชย์ เตรียมจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจระหว่างผู้จำหน่ายสินค้ารายใหญ่ เพื่อนำผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าไทยเข้าจำหน่ายในศูนย์การค้าฯ และร้านค้า ผู้ประกอบการจะได้รับฟังคำแนะนำการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความโดดเด่น ดึงดูดผู้บริโภค และสามารถนำองค์ความรู้และทักษะเพิ่มเติมไปต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด
รวมถึงการออกงานแสดงและจำหน่ายสินค้า เพื่อกระตุ้นยอดขาย ขยายตลาด เพิ่มพันธมิตรทางการค้า ฝึกทักษะการเจรจาการขายสินค้า และการรับมือกับลูกค้าในทุกรูปแบบ พร้อมทั้งสนับสนุนให้ผู้ประกอบการขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าไทยให้มีความหลากหลาย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทุกกลุ่ม ทั้งเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ของใช้ของตกแต่งบ้าน และเครื่องประดับ ให้ผู้บริโภคได้เลือกนำไปใช้ตามความชื่นชอบ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม เปิดทางให้ผ้าขาวม้าไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
พร้อมกระตุ้นให้ผู้ประกอบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ผ่านกิจกรรมและโครงการอบรมพัฒนาองค์ความรู้ และการส่งเสริมการขายของกรมฯ เช่น หลักสูตรปั้นร้านค้าออนไลน์ขั้นเทพ โครงการสุขใจซื้อของไทยร่วมกับ Shoppee โครงการ Digital Village by DBD และงานมหกรรม Thailand e-Commerce Expo เป็นต้น เพื่อเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการผ้าขาวม้าไทยในการขยายช่องทางการตลาดให้ครอบคลุม และอำนวยความสะดวกผู้บริโภคให้สามารถซื้อผ้าขาวม้าไทยได้ทุกที่ ทุกเวลา
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567) มีผู้ประกอบการผ้าขาวม้าที่อยู่ในการส่งเสริมสนับสนุนของกระทรวงพาณิชย์ จำนวน 544 ราย แบ่งเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 470 ราย (86.40%) ภาคกลาง 34 ราย (6.25%) ภาคตะวันตก 19 ราย (3.50%) ภาคเหนือ 14 ราย (2.58%) ภาคใต้ 5 ราย (0.91%) และ ภาคตะวันออก 2 ราย (0.36%)