โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน โดยครอบคลุมพื้นที่ 878 อำเภอทั่วประเทศ
1. วัตถุประสงค์หลักของโครงการ:
- เพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน
- กระตุ้นการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจ
- ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการทำธุรกรรมทางการเงิน
- ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและร้านค้าขนาดเล็ก
2. คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์รับเงิน 10,000 บาท
ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนดังนี้:
1. มีสัญชาติไทย
2. มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (ณ วันที่ 15 กันยายน 2567)
3. มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
4. มีรายได้ไม่เกิน 840,000 บาทต่อปี (สำหรับปีภาษี 2566)
5. มีเงินฝากรวมไม่เกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567
6. ไม่เป็นผู้ต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
7. ไม่เป็นผู้ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการอื่นๆ ของรัฐ
8. ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการหรือโครงการอื่นๆ ของรัฐ
หมายเหตุ: การตรวจสอบเงินฝากจะพิจารณาจากบัญชีเงินฝาก 6 ประเภท ได้แก่ กระแสรายวัน ออมทรัพย์ เงินฝากประจำ บัตรเงินฝาก ใบรับฝากเงิน และผลิตภัณฑ์เงินฝากอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน โดยนับเฉพาะเงินฝากในสกุลเงินบาทและไม่รวมบัญชีร่วม
3. วิธีลงทะเบียนรับเงิน 10,000 บาท แบบละเอียดทุกขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ"
- สำหรับ iOS: ดาวน์โหลดจาก App Store คลิก
- สำหรับ Android: ดาวน์โหลดจาก Google Play Store คลิก
ขั้นตอนที่ 2: เปิดแอปและสมัครสมาชิก
- เปิดแอป "ทางรัฐ"
- กดปุ่ม "สมัครสมาชิก/เข้าสู่ระบบ"
- เลือก "สมัครสมาชิก"
- กดปุ่ม "สมัครด้วยบัตรประชาชน"
ขั้นตอนที่ 3: ยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข
- อ่านข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว
- กดเครื่องหมายถูกที่ "ฉันยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข"
- กดปุ่ม "ยอมรับ"
ขั้นตอนที่ 4: ถ่ายรูปบัตรประชาชน
- อ่านข้อแนะนำในการถ่ายรูปบัตรประชาชน
- กดปุ่มเพื่อถ่ายรูปบัตรประชาชน
- ตรวจสอบความชัดเจนของภาพและถ่ายใหม่หากจำเป็น
ขั้นตอนที่ 5: กรอกข้อมูลส่วนตัว
- กรอกข้อมูลตามที่ปรากฏบนบัตรประชาชน
- ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
- กดปุ่ม "ยืนยันตัวตน"
ขั้นตอนที่ 6: สแกนใบหน้า
- อ่านข้อแนะนำในการสแกนใบหน้า
- กดปุ่มเพื่อเริ่มสแกนใบหน้า
- ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่อสแกนใบหน้าให้สมบูรณ์
ขั้นตอนที่ 7: ตั้งค่าบัญชีผู้ใช้
- กำหนดชื่อบัญชีผู้ใช้
- ตั้งรหัสผ่านสำหรับเข้าใช้แอป
- กดปุ่ม "ยืนยัน"
ขั้นตอนที่ 8: ตั้งค่า PIN Code
- ตั้ง PIN Code 6 หลัก
- ยืนยัน PIN Code อีกครั้ง
ขั้นตอนที่ 9: เปิดใช้งานการสแกนใบหน้า
- กดปุ่ม "ใช้งาน" เพื่อเปิดใช้การสแกนใบหน้า
- กด "เริ่มใช้งาน" เพื่อเข้าสู่หน้าหลักของแอป
ขั้นตอนที่ 10: ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
- ที่หน้าหลัก เลือกหมวดหมู่ "นโยบายรัฐบาล"
- เลือก "บริการลงทะเบียนขอรับสิทธิ Digital Wallet"
- อ่านรายละเอียดและกดปุ่ม "อนุญาต"
- รอประกาศวันกดยืนยันขอรับสิทธิอย่างเป็นทางการ
4. กำหนดการสำคัญของโครงการ
- 1 สิงหาคม 2567: เริ่มเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอป "ทางรัฐ" ตั้งแต่เวลา 8.00 น.
- 15 กันยายน 2567: วันสุดท้ายของการลงทะเบียน
- 16 กันยายน - 15 ตุลาคม 2567: ช่วงลงทะเบียนสำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน (รายละเอียดจะประกาศภายหลัง)
- ไตรมาส 4 ปี 2567 (ตุลาคม-ธันวาคม): เริ่มใช้จ่ายเงินได้
5. วิธีการใช้จ่ายเงิน 10,000 บาท และเงื่อนไขที่ควรรู้
วิธีการใช้จ่าย:
- ใช้จ่ายผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์บนแอป "ทางรัฐ"
- สแกน QR Code ที่ร้านค้าเพื่อชำระเงิน
เงื่อนไขสำคัญ:
- ใช้จ่ายได้เฉพาะในอำเภอเดียวกับที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
- ต้องเป็นการซื้อขายแบบพบหน้า (Face to Face) เท่านั้น
- ใช้ได้กับร้านค้าขนาดเล็กและร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กเท่านั้น
- ไม่สามารถใช้ที่ห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าปลีกขนาดใหญ่
- ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้
- ไม่สามารถโอนให้ผู้อื่นได้
6. รายการสินค้าที่สามารถซื้อได้และซื้อไม่ได้
สินค้าที่สามารถซื้อได้:
- สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป
- อาหารและเครื่องดื่ม (ยกเว้นแอลกอฮอล์)
- เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย
- ของใช้ในครัวเรือน
- ยาและเวชภัณฑ์
- อุปกรณ์การเรียน
สินค้าที่ไม่สามารถซื้อได้ (Negative List):
- สลากกินแบ่งรัฐบาล
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ผลิตภัณฑ์ยาสูบ
- กัญชา กระท่อม และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
- บัตรกำนัลและบัตรเงินสด
- ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี
- น้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ
- เครื่องใช้ไฟฟ้า
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- เครื่องมือสื่อสาร
หมายเหตุ: รายการสินค้าที่ไม่สามารถซื้อได้ (Negative List) อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามที่กระทรวงพาณิชย์พิจารณากำหนด
7. ข้อมูลสำหรับร้านค้าที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ
คุณสมบัติของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ:
1. เป็นร้านค้าขนาดเล็กหรือร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก
2. ต้องอยู่ในระบบภาษี โดยเข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้:
- อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
- เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล
- เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (เฉพาะผู้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร)
3. มีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีติดต่อกันอย่างน้อย 2 ปี (2565-2566) สำหรับกิจการที่เปิดมานานกว่า 2 ปี
4. สำหรับร้านค้าใหม่ที่เปิดไม่ถึง 2 ปี ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีติดต่อกันตั้งแต่เริ่มประกอบกิจการจนถึงปัจจุบัน
5. ใช้หมายเลขโทรศัพท์แบบรายเดือนในการลงทะเบียน
วิธีการลงทะเบียนสำหรับร้านค้า:
- เปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป
- รายละเอียดวิธีการลงทะเบียนและช่องทางการสมัครจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในภายหลัง
ข้อควรรู้สำหรับร้านค้า:
1. ร้านค้าไม่สามารถถอนเงินสดได้ทันทีหลังจากที่ประชาชนใช้จ่าย
2. ร้านค้าจะสามารถถอนเงินสดได้ตั้งแต่รอบการใช้จ่ายที่ 2 เป็นต้นไป
3. การซื้อขายต้องเป็นแบบพบหน้า (Face to Face) เท่านั้น
4. ห้ามทำซ้ำ ส่งต่อ หรือใช้วิธีการอื่นใดกับ QR Code เพื่อหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมแบบพบหน้า
8. คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
Q1: ถ้าไม่มีสมาร์ทโฟนจะลงทะเบียนได้หรือไม่?
A1: ได้ครับ รัฐบาลจะเปิดช่องทางพิเศษสำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนในช่วงวันที่ 16 กันยายน - 15 ตุลาคม 2567 โดยจะมีการประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมในภายหลัง
Q2: เงิน 10,000 บาทนี้ต้องคืนหรือไม่?
A2: ไม่ต้องคืน เป็นเงินที่รัฐบาลมอบให้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือค่าครองชีพ
Q3: สามารถโอนเงินให้ผู้อื่นได้หรือไม่?
A3: ไม่ได้ เงินนี้ไม่สามารถโอนให้ผู้อื่นได้ และต้องใช้จ่ายผ่านระบบ Digital Wallet เท่านั้น
Q4: หากมีเงินเหลือหลังสิ้นสุดโครงการจะเกิดอะไรขึ้น?
A4: รายละเอียดนี้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แนะนำให้ติดตามข่าวสารจากทางการอย่างใกล้ชิด
Q5: ผู้ที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัดแต่ทะเบียนบ้านอยู่กรุงเทพฯ จะใช้จ่ายได้ที่ไหน?
A5: ต้องใช้จ่ายในอำเภอที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเท่านั้นครับ ในกรณีนี้คือต้องใช้จ่ายในกรุงเทพฯ
Q6: หากลงทะเบียนไม่สำเร็จในวันแรก จะมีโอกาสลงทะเบียนอีกหรือไม่?
A6: ได้ สามารถลงทะเบียนได้ตลอดช่วงเวลาที่เปิดรับลงทะเบียน คือตั้งแต่ 1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567
Q7: เงินในโครงการนี้มีอายุการใช้งานหรือไม่?
A7: รายละเอียดเรื่องระยะเวลาการใช้งานยังไม่มีการประกาศอย่างชัดเจน แนะนำให้ติดตามข่าวสารจากทางการอย่างต่อเนื่อง
9. ช่องทางติดตามข้อมูลและสอบถามเพิ่มเติม
1. เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: www.digitalwallet.go.th หรือ www.กระเป๋าเงินดิจิทัล.รัฐบาล.ไทย
2. ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน (Government Contact Center): โทร 1111
3. เพจ Facebook อย่างเป็นทางการของโครงการ (หากมี)
4. Line Official Account ของโครงการ (หากมี)
5. แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" - ติดตามข่าวสารและประกาศสำคัญ
ข้อแนะนำสุดท้าย:
1. เตรียมข้อมูลส่วนตัวให้พร้อมก่อนวันลงทะเบียน
2. ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้เสถียร
3. หากพบปัญหาในการลงทะเบียน อย่าเพิ่งตกใจ ให้ลองใหม่ในภายหลังหรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูล
4. ติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่องเพื่อรับทราบการอัพเดทหรือการเปลี่ยนแปลงต่างๆ
5. ใช้จ่ายอย่างรอบคอบและตามความจำเป็น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเองและเศรษฐกิจโดยรวม