วันนี้(8 มิ.ย.59)นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อหารือแนวทางการปฏิบัติ เรื่อง การออกอากาศรายการโดยมีการโฆษณาบริการหรือสินค้าไม่ให้เกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยร่วมมือกับคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ตรวจสอบเวลาการออกอากาศโฆษณาในวันที่ 14 พฤษภาคม ตลอด 24 ชั่วโมงของช่องรายการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล จำนวน 23 ช่องรายการที่มีการโฆษณาและบริการธุรกิจ ระดมความคิดเห็นจากผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความเข้าใจถึงวิธีการตรวจนับจำนวนเวลาการออกอากาศโฆษณา
“ ที่ผ่านมาสำนักงาน กสทช. มีเรื่องร้องเรียนเรื่องโฆษณาเกินเวลาจากผู้บริโภคไม่มากนัก แต่เมื่อเข้าสู่การพิจารณาในชั้นอนุกรรมการฯ และ กสท. เราก็ต้องทำตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ที่ผ่านมาเกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกันในการนับเวลาโฆษณาระหว่างผู้ประกอบการกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งขณะนี้นับเวลาเฉพาะโฆษณาหรือบริการที่บอกสรรพคุณ คุณประโยชน์ หรือคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่เป็นไปเพื่อการแสวงหากำไรเท่านั้น ส่วนการประชาสัมพันธ์รายการของสถานีและหน่วยงานภาครัฐหรือองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรจะไม่นับรวมเวลาด้วย เวทีนี้จึงจัดขึ้นเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน คือ โทรทัศน์ในระบบดิจิตอลสามารถโฆษณาได้ไม่เกิน 12.30 นาที ต่อ 1 ชั่วโมง และเฉลี่ยทั้งวันไม่เกิน 10 นาที ซึ่งหากเกินเวลาดังกล่าวจะถือว่าเป็นการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ซึ่ง กสท. มีอำนาจสั่งระงับการกระทำ หากฝ่าฝืนก็จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาปรับทางปกครอง มีโทษปรับ 1 ล้านบาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 1 แสนบาทหากไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง” นางสาวสุภิญญากล่าว
นอกจากนี้นางสาวสุภิญญายังย้ำขอให้เข้มงวดเรื่องโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพอาหารและยา เพราะกรณีมีเด็กวัยรุ่นซื้อยาลดความอ้วนแล้วเสียชีวิต ซึ่งเป็นการซื้อจากการโฆษณาผ่านทางอินเตอร์เน็ต ขออย่าให้โฆษณาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ออกมาทางโทรทัศน์ช่องใดช่องหนึ่งเลย โดยเฉพาะการโฆษณาอาหารเสริมที่เน้นความผอม ขาว สวย โดยมีดาราหรือผู้ประกอบวิชาชีพเป็นพรีเซ็นเตอร์ ขอให้ระมัดระวังให้มาก อย่าล้ำเส้นกฎหมายอาหารและยาหากมีใครเสียชีวิต และสุขภาพจากการโฆษณาเช่นนี้ จะทำให้ทีวีดิจิตอลเสียภาพลักษณ์ทั้งหมด