16 กันยายน 2567 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะร่วมกันแถลงทิศทางและนโยบายสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ โดยมีประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาคือ การเร่งรัดผลักดันการเจรจาข้อตกลงเปิดเขตการค้าเสรี (Free Trade Agreement : FTA) กับประเทศต่างๆ เพื่อผลักดันการค้าและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ
นายพิชัย เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญในประเด็นการเจรจา FTA กับประเทศต่างๆ อย่างมาก และจะเร่งรัดผลักดันการทำ FTA ที่สำคัญๆ ให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะการจัดทำความตกลง FTA กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association : EFTA) หรือ เอฟตา ซึ่งมีสมาชิก 4 ประเทศประกอบด้วย สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ให้เสร็จภายในปี 2567
ในปี 2566 เอฟตา เป็นคู่ค้าอันดับที่ 16 ของไทย การค้าระหว่างไทยกับเอฟตา มีมูลค่า 9,882.75 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 1.72% ของการค้าทั้งหมดของไทยกับโลก โดยไทยส่งออกไปเอฟตา มูลค่า 4,385.01 ล้านดอลลาร์ และไทยนำเข้าจากเอฟตา มูลค่า 5,497.75 ล้านดอลลาร์
สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกาและส่วนประกอบเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และเครื่องใช้สำหรับเดินทาง และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ นาฬิกาและส่วนประกอบ เนื้อสัตว์สำหรับบริโภค และผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม
นายพิชัยกล่าวว่า นอกจากกลุ่มเอฟตาแล้ว จะเร่งรัดการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) ให้สำเร็จโดยเร็ว เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้าของไทยในตลาดอียูที่มีขนาดใหญ่และกำลังซื้อสูง รวมทั้งดึงดูดการลงทุนจากอียูและประเทศต่างๆ ที่ต้องการใช้ประโยชน์ในการส่งออกไปอียู ซึ่งการเจรจาที่ผ่านมามีความคืบหน้าอย่างมาก
นอกจากนี้จะเดินหน้าเจรจาขยายกรอบการเปิด FTA กับอินเดียเพิ่มเติม เพราะอินเดียเป็นตลาดที่ใหญ่และมีประชากรจำนวนมาก หากสามารถเพิ่มความตกลงการเปิดเสรีการค้าเพิ่มเติมได้จะช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้าและการลงทุนได้อย่างมาก
นายพิชัยกล่าวว่า ในวันที่ 18-23 กันยายน 2567 ตนจะนำคณะนักธุรกิจไทยไปโรดโชว์ที่ประเทศอังกฤษ โดยจะมีการลงนาม MOU ความร่วมมือทางการค้าไทย-อังกฤษในวันที่ 18 กันยายน 2567
ขณะเดียวกันก็จะมีการนำสินค้าไทยไปโปรโมทที่สนามกีฬาซิตีออฟแมนเชสเตอร์ ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้รวมถึงการโปรโมทสินค้าไทยที่ห้างเซลฟริดเจส (Selfridges) ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าของกลุ่มเซ็นทรัลด้วย