นายธีรพล ขุนเมือง ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กำหนดนโยบายส่งเสริมให้คนไทยทุกคน ทุกกลุ่มมีงานทำ โดยส่งเสริมทั้งการทำงานในประเทศ ทั้งเข้าสู่ระบบการทำงานในสถานประกอบการ รวมทั้งการประกอบอาชีพอิสระ ตลอดจนการส่งเสริมให้คนไทยที่มีความประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ จะต้องได้รับการดูแลทั้งก่อนการเดินทาง ระหว่างการทำงาน และเมื่อเดินทางกลับประเทศด้วย โดยคนหางานที่จะไปทำงานต่างประเทศจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางอย่างเหมาะสม ทั้งกรณีบริษัทจัดส่งและการดำเนินการโดยกรมการจัดหางาน ตลอดจนนายจ้างพาไปทำงานด้วยตนเอง และเมื่อเข้าไปทำงานแล้วจะต้องได้รับค่าจ้างที่สูงกว่าประเทศไทย และได้รับการดูแลด้านคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย โดยมอบหมายให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ที่ประจำอยู่ ณ สำนักงานแรงงานในต่างประเทศ 13 แห่ง ดูแลอย่างใกล้ชิด โดยในช่วงปี 2557 ถึงเดือนพฤษภาคม 2559 คนทำงานในต่างประเทศส่งรายได้กลับประเทศผ่านระบบธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นจำนวนเงิน 210,481 ล้านบาท (สองแสนหนึ่งหมื่นสี่ร้อยแปดสิบเอ็ดล้านบาท) โดยในปีงบประมาณ 2559 หกเดือนแรก ส่งรายได้กลับแล้ว 58,934 ล้านบาท ทั้งนี้ ไม่นับรวมวงเงินที่ผู้ทำงานในต่างประเทศ ส่งรายได้กลับครอบครัวในช่องทางอื่น ๆ อีกจำนวนมาก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้สั่งการให้สำนักงานแรงงานไทยในต่างประเทศขยายตลาดแรงงานที่มีคุณภาพให้กับแรงงานไทยด้วย เนื่องจากแรงงานไทยได้รับคำชื่นชมจากนายจ้างทั้งด้านความสามารถในการทำงานที่หลากหลาย ทำงานด้วยความทุ่มเท และที่สำคัญทำงานด้วยใจ ซึ่งเป็นจุดแข็งของแรงงานไทยอันเป็นที่ยอมรับของทั่วโลกด้วย ทั้งนี้ ในช่วงมกราคม – มิถุนายน 2559 มีแรงงานไทยทำงานต่างประเทศ รวมจำนวน 58,758 คน โดยเดินทางไปทำงานใหม่ 32,538 คน ส่วนที่เหลือกลับไปทำงานภายใต้สัญญาเดิม โดยประเทศไต้หวันมีการเดินทางไปทำงานมากที่สุด 12,338 คน ลำดับที่สองประเทศญี่ปุ่น 3,499 คน ลำดับที่สามอิสราเอล จำนวน 2,891 คน และประเทศสาธารณรัฐเกาหลี จำนวน 2,841 คน และเพื่อให้คนหางานที่ประสงค์จะไปทำงานต่างประเทศเดินทางไปทำงานอย่างมั่นใจขอให้ติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานทุกจังหวัด สำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ 1-10 หรือ โทร.1694