สพฉ.เตรียมกระจายติดตั้งเครื่อง AED จำนวน 20 เครื่องในพื้นที่สาธารณะ ให้ประชาชนได้ใช้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน นำร่อง ติดตั้ง สนามบิน สนามกีฬา สถานีรถไฟ ด้าน“หมออนุชา” เปิดข้อมูลทุกๆ 1 ชั่วโมงมีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจมากถึง 6 คน ระบุหาก CPR ควบคู่กับใช้งานเครื่อง AED ภายในระยะเวลา 4 นาทีจะเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้ประชาชนได้มากขึ้น
นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า โรคหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันเป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนไทยทุกเพศ ทุกวัย และทุกที่ทุกเวลา ซึ่งอัตราของประชาชนที่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน มีจำนวนมากพอๆ กับผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ทั้งนี้จากสถิติในแต่ละปีนั้นประเทศไทยมีประชาชนเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันกว่า 54,000 คนเท่ากับว่าในทุกๆ 1 ชั่วโมงมีคนเสียชีวิตจากโรคหัวใจมากถึง 6 คน และหากผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และถูกวิธีตามหลักห่วงโซ่การรอดชีวิต คือ การช่วยเหลือโดยการฟื้นคืนชีพเบื้องต้น (CPR) ประกอบกับการใช้เครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ (AED) ภายในระยะเวลา 4 นาทีหลังจากหัวใจหยุดเต้น ก็จะเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของประชาชนที่หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันนอกสถานพยาบาลได้
ด้วยเหตุนี้บริษัทแอลโคเทค จำกัด จึงได้ทำการมอบเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติAED จำนวน 20 เครื่องให้กับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ โดยสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติจะนำเครื่อง AED ที่ได้รับมอบในครั้งนี้ไปกระจายติดตั้งในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงอาทิ สถานีรถไฟ สถานีรถโดยสาร สนามบิน บนเครื่องบิน บนรถไฟ สนามแข่งขันวิ่งมาราธอน สนามกีฬาที่มีคนจำนวนมาก สนามกอล์ฟ ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน หน่วยบริการของราชการ สถานที่สำคัญ รวมทั้งโรงงานที่มีคนงานจำนวนมาก และสถานที่ท่องเที่ยวที่ห่างไกลจากหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อให้เครื่อง AED ได้ถูกใช้งานในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์กับประชาชน โดยในเบื้องต้นเราได้นำเครื่อง AED ไปติดตั้งแล้วที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล สถานีรถไฟฟ้า MRT เตาปูน สถานีขนส่งหมอชิต สนามบินเชียงใหม่ สนามบินดอนเมือง สนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้เราจะนำไปติดตั้งเพิ่มเติมในสถานที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ กรมบัญชีกลาง สวนสัตว์ สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางศาสนา เรือหลวงจักรีนฤเบศร สนามกีฬาธูปะเตมีย์ สนามบินสุราษฏร์ธานี สถานีขนส่งสายใต้ และสถานีรถไฟอีกด้วย
ด้านนพ.ชายวุฒิ สรวิบูลย์ อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทยศาสตร์วชิระพยาบาล กล่าวว่า ปัจจุบันนี้มีคนจำนวนมากที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นโรคหัวใจจึงทำให้ต้องประสบกับภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันโดยตนเองไม่รู้ตัว ซึ่งจากสถิติมีผู้ป่วยด้วยโรคนี้เสียชีวิตกว่า 80 เปอร์เซ็นต์นอกโรงพยาบาล โดยเราสามารถช่วยผู้ป่วยได้ภายในระยะเวลา 4 นาทีเท่านั้น ดังนั้นประชาชนทุกคนจึงควรที่จะเรียนรู้แนวทางในการช่วยชีวิตฉุกเฉิน และหมั่นตรวจสอบสุขภาพของตนเองอยู่เสมอ นอกจากนี้แล้วผู้สูงอายุก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะประสบกับภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันและในโอกาสวันแม่ที่จะถึงนี้ จึงอยากแนะนำบุตรหลานควรที่จะประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะพาแม่ไปเที่ยวในสถานที่ไกลๆ เพราะหลายคนอาจคิดว่าท่านอาจแข็งแรงแต่จริงๆแล้วท่านอาจจะมีภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันซ่อนอยู่ก็ได้ ดังนั้นก่อนที่จะพาแม่ไปเที่ยวควรพาไปตรวจร่างกายประจำปีก่อน รวมถึงการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และควรหลีกเลี่ยงสถานที่ไกลๆ หรือมีความเสี่ยงสูง นอกจากนี้ควรวางแผนการเดินทางให้ดีพักผ่อนให้เพียงพอ และเตรียมยาประจำตัวให้พร้อมด้วย
นายธนภาค จิระเดชดำรง ผู้บริหารจากบริษัท แอลโคเทค จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย AED ยี่ห้อ defibtech จากสหรัฐอเมริกากล่าวว่า ภายหลังจากที่สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติได้ออกมารณรงค์อย่างต่อเนื่องให้มีการติดตั้งเครื่อง AED และประกาศให้เครื่อง AED กลายเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นซึ่งเมื่อเครื่อง AED กลายมาเป็นอุปกรณ์ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นประชาชนทุกคนจึงจะต้องเข้าถึงการใช้งานให้ได้อย่างง่ายที่สุด โดยเครื่อง AED ที่เราได้ทำการมอบให้กับสพฉ.ในครั้งนี้นั้นมีระบบการทำงานที่เข้าใจง่ายเพราะมีระบบสั่งการด้วยวีดีโอ ภาพ เสียง และข้อความบนหน้าจอ รองรับทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เมื่อนำไปติดตั้งในสถานที่ชุมชนหรือพื้นที่สาธารณะที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก ประชาชนไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือต่างชาติที่อยู่ในบริเวณสถานที่เหล่านั้นก็สามารถใช้งานเครื่อง AED ได้ง่ายไม่เกิดความสับสน เพราะวีดีโอที่สาธิตการใช้งานเครื่อง AED จะสอนผู้ใช้งานให้ใช้ได้อย่างถูกวิธี