กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รายงานผลกระทบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรง ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย รวมถึงพายุโนรู ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรงในหลายพื้นที่ในช่วงที่ผ่าน ประกอบการการระบายน้ำจากเขื่อนลงแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขา ส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขังเป็นวงกว้างหลายพื้นที่
โดยช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 8 ต.ค. 65 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่รวม 50 จังหวัด รวม 311 อำเภอ 1,511 ตำบล 9,273 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 239,348 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 23 จังหวัด ได้แก่ ตาก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม นครนายก ปราจีนบุรี พิจิตร เลย ลพบุรี และนครศรีธรรมราช รวม 115 อำเภอ 654 ตำบล 4,115 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 136,871 ครัวเรือน ดังนี้
- น้ำล้นตลิ่ง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ รวม 19 จังหวัด ได้แก่ ตาก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม นครนายก และ ปราจีนบุรี รวม 101 อำเภอ 561 ตำบล 3,570 หมู่บ้าน แนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่
- น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก พื้นที่ได้รับผลกระทบ รวม 4 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร เลย ลพบุรี และนครศรีธรรมราช รวม 14 อำเภอ 93 ตำบล 545 หมู่บ้าน ระดับน้ำลดลง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และให้การดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือโทร 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง