วันนี้ 9 ตุลาคม 2565 ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 กระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้าของโครงการการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 และแนวทางการดำเนินการสำหรับผู้ลงทะเบียนที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้
ล่าสุด นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดรับลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565(โครงการฯ) ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน – 10 ตุลาคม 2565 ณ เวลา 12.00 น.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ การลงทะเบียนตามโครงการฯ เป็นการลงทะเบียนรายบุคคล (ผู้ลงทะเบียน) แต่การตรวจสอบจะตรวจสอบทั้งรายบุคคลและสมาชิกในครอบครัว โดยขั้นตอนแรกจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ (เกณฑ์บุคคล) หากผู้ลงทะเบียนผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์บุคคลโดยมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ จะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของเกณฑ์ครอบครัว (ในกรณีที่มีคู่สมรสหรือบุตร) ซึ่งหากพบว่า ผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์ครอบครัว จะถือว่าผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านคุณสมบัติ และผู้ลงทะเบียนจะไม่ได้รับสิทธิตามโครงการฯ
โฆษกกระทรวงการคลังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ลงทะเบียนที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้สามารถดำเนินการได้ ดังนี้
1. ผู้ลงทะเบียนกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป นับถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2565) ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียง ที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสมาเพื่อดำเนินการหย่าตามกฎหมายได้ ผู้ลงทะเบียนจะต้องดำเนินการโดยยื่นแบบฟอร์มลงทะเบียนพร้อมหนังสือประกอบการพิจารณาเข้าร่วมโครงการฯโดยต้องมีการลงลายมือชื่อของผู้ลงทะเบียน ลายมือชื่อของพยานรับรองจำนวน 2 คนรวมถึงต้องมีการลงนามรับรองจากเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่เป็นผู้รับรองว่า ผู้ลงทะเบียนเป็นบุคคลที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสมาเพื่อดำเนินการหย่าตามกฎหมายได้และเอกสารประกอบการลงทะเบียนอื่นๆ (กรณีมีบุตรอายุต่ำกว่า18 ปี) และผู้ลงทะเบียนจะต้องนำเอกสารทั้งหมดไปยื่น ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน โดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่ ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอหรือผู้ที่นายอำเภอมอบหมายรวมถึงพนักงานเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองและเทศบาลนครในพื้นที่ เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตที่ผู้อำนวยการเขตมอบหมาย เจ้าหน้าที่สำนักทะเบียนท้องถิ่นเมืองพัทยาทั้งนี้ หากผู้ลงทะเบียนกลุ่มเปราะบางผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติซึ่งกระทรวงการคลังจะประกาศให้ทราบต่อไปผู้ลงทะเบียนจะสามารถใช้สิทธิ์ตามโครงการฯได้โดยต้องไปยืนยันตัวตนณธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)และธนาคารออมสินได้ตั้งแต่วันที่ประกาศผลผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ(ภายในระยะเวลา 180 วัน)และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)(ธนาคารกรุงไทยฯ) (ไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด)
2. ผู้ลงทะเบียนกลุ่มทั่วไป ได้แก่ ผู้ลงทะเบียนที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี ที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้ผู้ลงทะเบียนจะต้องดำเนินการโดยยื่นแบบฟอร์มการลงทะเบียนพร้อมหนังสือประกอบการพิจารณาเข้าร่วมโครงการฯโดยต้องมีการลงลายมือชื่อของผู้ลงทะเบียนลายมือชื่อของพยานรับรองจำนวน 2 คนและเอกสารประกอบการลงทะเบียนอื่นๆ(กรณีที่มีบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี) และผู้ลงทะเบียนจะต้องนำเอกสารทั้งหมดไปยื่นณ หน่วยงานรับลงทะเบียน ทั้งนี้ หากผู้ลงทะเบียนกลุ่มทั่วไปผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ผู้ลงทะเบียนจะต้องนำใบสำคัญการหย่าหรือเอกสารอื่นใดที่คณะกรรมการฯ กำหนดมาแสดงและยืนยันตัวตน ณ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสินได้ตั้งแต่วันที่ประกาศผลผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ (ภายในระยะเวลา 180 วัน) และธนาคารกรุงไทยฯ (ไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด) จึงจะสามารถใช้สิทธิ์ตามโครงการฯ ได้ โดยผู้ลงทะเบียนกลุ่มทั่วไปจะต้องนำใบสำคัญการหย่าหรือเอกสารอื่นใดที่คณะกรรมการฯ กำหนดมาแสดงให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติจึงจะสามารถใช้สิทธิ์ตามโครงการฯได้
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถดาวน์โหลดหนังสือประกอบการพิจารณาเข้าร่วมโครงการฯได้จากเว็บไซต์ของโครงการฯ ได้ที่ https://xn--12cm1ane3a8dcb9a6abq9eehm8a4u7e.mof.go.th/ หรือ https://welfare.mof.go.th หรือติดต่อขอรับจากหน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วยทั่วประทศ