เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือนกันยายน 2565 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวในทุกภูมิภาค นอกจากนี้ ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น ในขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมก็ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในเกือบทุกภูมิภาค
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง พร้อมด้วยนายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง และนายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการกองนโยบายเศรษฐกิจมหภาค เปิดเผย ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ประจำเดือนกันยายน 2565 ว่า เศรษฐกิจภูมิภาคในเดือนกันยายน 2565 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวในทุกภูมิภาค
นอกจากนี้ ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น ในขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมก็ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในเกือบทุกภูมิภาค โดยมีรายละเอียดดังนี้
เศรษฐกิจภาคตะวันออกในเดือนกันยายน 2565 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน การท่องเที่ยว รวมทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น
ด้านอุปสงค์พบว่า เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัว 31.3 % ต่อปี แต่ชะลอตัว -3.3 % เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า หลังขจัดผลทางฤดูกาล เช่นเดียวกันกับจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ขยายตัว 30.4 % ต่อปี แต่ชะลอตัว -12.5 % เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล
จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัว 53.8 %ต่อปี รายได้เกษตรกรชะลอตัว -3.0 % ต่อปี แต่ขยายตัว 43.4 %เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 47.5 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 46.6
เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ขยายตัว 16.3 %ต่อปี แต่ชะลอตัว-18.7 %เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล จำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัว 20.0 %ต่อปี แต่ชะลอตัว -7.4 % เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล
เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการมูลค่า 4,149.81 ล้านบาท ขยายตัว38.4 % ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานทำผลิตภัณฑ์เป็นเครื่องใช้ในบ้าน ด้วยเงินทุน 1,536.91 ล้านบาท ในจังหวัดชลบุรีเป็นสำคัญ
ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 100.7 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 103.1 เครื่องชี้ด้านการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวร้อยละ 840.2 %ต่อปี และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัว 1,055.1 %ต่อปี