นายจตุฤทธิ์ จันทรกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสบาย แคปปิตอล พลัส จำกัด กล่าวในงาน“𝗧𝗵𝗲 𝗕𝗶𝗴 𝗜𝘀𝘀𝘂𝗲 𝟮𝟬𝟮𝟮 : คุมสัญญาเช่าซื้อลิสซิ่งสะเทือน” ภายใต้หัวข้อเสวนา “ธุรกิจลิสซิ่งจะอยู่อย่างไรภายใต้กฎกติกา สคบ.ใหม่” ว่ากลุ่มธุรกิจของกลุ่ม SABUY มีบริการที่หลากหลาย และครอบคลุม ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคตั้งแต่ตื่นนอนหลับและตื่นนอนหลับชีวิตสบาย
โดยกลุ่ม SABUY มีฐานลูกค้าอยู่ 50 ล้านคน มียอดการทำธุรกรรมบริการ 40 ล้านธุรกรรมต่อเดือน มีจุดให้บริการมากว่า 5 แสนจุด โดยบริการการเงิน ภายใต้ สบาย แคปปิตอล พลัส ถือเป็นหนึ่งในบริการหลัก ที่ให้บริการทางด้านสินเชื่อกับหลากหลายธุรกิจ รวมถึงสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ รถบรรทุก
ซึ่งการออกประกาศฉบับ สคบ.ใหม่ ได้มีการรวบรวมข้อมูลที่มีอยู่ในระบบพบว่า เหลือลูกค้าเพียง 1.8 แสนราย ที่เป็นลูกค้าคุณภาพสำหรับการบริการสินเชื่อ ซึ่งถามว่าจำนวนลูกค้านี้เพียงพอหรือไม่ ต้องตอบว่าเพียงพอ ในเบื้องต้นของการให้บริการเราคงไม่ต้องการลูกค้าจำนวนมากๆ อย่างไรก็ตามมีข้อกังวลเรื่องวิธีการปฏิบัติ และต้นทุนของระบบในการดำเนินการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งโดยสรุปคือมีผลกระทบบ้าง แต่ลูกค้าชั้นดีก็จะไม่มีปัญหา และน่าจะเป็นผลดีกับผู้บริโภคด้วย
กลุ่มลูกค้าเช่าซื้อรถยนต์กับมอเตอร์ไซด์ แตกต่างกัน วิธีการคิดไม่เหมือนกัน ผลกระทบจากประกาศนี้ก็แตกต่างกัน อย่างรถยนต์ ประกาศฉบับนี้กำหนดเพดานคุมดอกเบี้ยไว้สูงกว่าตลาด ของมอเตอร์ไซด์ ประกาศเพดานคุมอัตราดอกเบี้ยไว้ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยในตลาด
นายจตุฤทธิ์ กล่าวต่อไปว่าเชื่อว่าในกลุ่มรถยนต์นั้นอัตราดอกเบี้ยในตลาดยังเป็นผู้นำอยู่ด้วยการแข่งขันของผู้ประกอบการ แต่หากมองในกลุ่มลูกค้า SABUY ที่มองกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ 1.8 แสนราย มันมีดาบสองคม ถ้าเรามองลูกค้ามีศักยภาพอย่างเดียว มันมีอัตราการปิดบัญชี 1 ใน 3 โดยกลุ่มนี้ปิดบัญชีเพราะไม่ต้องการเพื่อลดอัตราดอกเบี้ย แต่ปิดบัญชีเพราะต้องการเปลี่ยนรถรุ่นใหม่ ซึ่งผลกระทบเหล่านี้มีผลต่อผู้ประกอบการเช่นเดียวกัน เพราะอัตราดอกเบี้ยก็ต้องแข่งในตลาด แล้วยังมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามจากประสบการณ์ มองว่าที่ผ่านมาทุกครั้งที่มีการควบคุม หรือประกาศเพดานคุมอัตราดอกเบี้ย ส่วนใหญ่ดอกเบี้ยจะขึ้น สังเกตได้จากก่อนหน้านี้มีการประกาศควบคุมอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ผู้ให้บริการทุกรายพร้อมใจปรับอัตราดอกเบี้ยไปแตะสูงสุดของเพดานควบคุม ทั้งที่ก่อนหน้านี้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าเพดานควบคุม ขณะที่สถานการณ์ขณะนี้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายจตุฤทธิ์ กล่าวต่อไปอีกว่า การออกประกาศดังกล่าวนั้นกลุ่มลูกค้าคุณภาพ ไม่กระทบ แต่อาจมีความลังเล เพราะอยากได้ดอกเบี้ยที่ต่ำลง แต่ความเป็นจริงแล้วมันไม่ต่ำลง ส่วนกลุ่มที่กระทบคือ ลูกค้าที่มีความสามารถต่ำกว่า สมัยก่อนไม่มีเพดานคุมอัตราดอกเบี้ย โดยอัตราดอกเบี้ยขึ้นอยู่กับความเสี่ยง แต่ตอนนี้มีเพดานอัตราดอกเบี้ยควบคุม จะทำให้คนกลุ่มนี้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้อยากขึ้น
ส่วนผลกระทบกับผู้ประกอบการนั้นผู้ประกอบการรายเดิมที่มีในตลาดต้องปรับระบบ กระบวนการ ต้องเอาไอทีเข้ามาช่วย และต้องสื่อสารออกไปให้ลูกค้าทราบ ส่วนผู้ประกอบการรายใหม่อย่างสบาย ที่เพิ่งเข้ามาในตลาดนั้นมีปัจจัยที่ต้องคิดเพิ่มเติมพอสมควร เพราะมีต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามมองว่าการมีประกาศดังกล่าวถือเป็นเรื่องดี เพราะมีความชัดเจนขึ้น และมองเห็นตลาดชัดเจนว่าจะมุ่งให้ความสำคัญกับตลาดกลุ่มไหน