นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มการส่งออกไปตลาดซาอุดีอาระเบียว่า หลังจากที่ซาอุดีฯกลับมาเปิดความสัมพันธ์ทางการค้ากับไทย และภาคเอกชนได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนซาอุดีฯ พบว่า อุตสาหกรรมที่ทางซาอุดีฯมีความต้องการ คือ กลุ่มธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและ Wellness ส่วนกลุ่มสินค้าเกษตรและอาหาร โดยปกติจะเป็นสินค้าที่ไทยส่งออกไปที่ซาอุดีฯอยู่แล้ว ทั้งอาหารฮาลาล อาหารแช่แข็ง อาหารกระป๋อง และผลไม้ไทย ทำให้มีบริษัท Trading มาติดต่อเพิ่มขึ้น
ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี โดยสินค้าที่เป็นที่ต้องการจากซาอุดีฯ อาทิ ไก่ ปลา กุ้ง อาหารสัตว์ น้ำมะพร้าว รวมถึงอาหารไทย และข้าวไทย ซึ่งควรมีการทำการตลาดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์บางอย่างยังถูกห้ามนำเข้าอยู่ จึงเป็นความพยายามที่ภาครัฐต้องหาทางเจรจาผ่อนคลายสินค้าต่อไป รวมไปถึงการทำ FDA และการขออย.(สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา)ด้วย
นอกจากอาหารคนแล้ว อาหารสัตว์เลี้ยงก็เป็นสินค้าที่ซาอุดีฯ สนใจ เนื่องจากเลี้ยงแมวเยอะ ส่วนธุรกิจสายการบิน ก็มีการศึกษาเพื่อเพิ่มจำนวนเที่ยวบินระหว่างกัน ธุรกิจศูนย์การค้า Shopping Mall ทางซาอุดีฯ ก็ให้ความสนใจไม่แพ้กัน
ในขณะที่กลุ่มวัสดุก่อสร้าง เคมีภัณฑ์ และสี ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับความสนใจ ซึ่งมาจากการพัฒนาเมืองอย่างต่อเนื่องของซาอุดีฯ จึงมีโอกาสทั้งการส่งออกและการร่วมทุนทำธุรกิจระหว่างกัน ทั้งการสร้าง SMART CITY การออกแบบอาคารและเมือง เรื่อง supply สินค้าต่าง ๆ เช่น Solar Cell เป็นต้น
อย่างไรก็ตามในส่วนของแรงงานพบว่าซาอุดีฯต้องการแรงงานของไทยไปทำงานในหลายสาขา ตั้งแต่ ผู้บริหารโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล แรงงานฝีมือในการก่อสร้าง และยานยนต์ ซึ่งเป็นโอกาสของนักศึกษาสายอาชีวะที่จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น
“การสร้างความเชื่อมั่นในการทำการค้าระหว่างกันเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะเป็นการสร้างโอกาสที่ไทยจะเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและการลงทุนให้กับซาอุดีฯ ในการขยายการค้าเชื่อมโยงกับภูมิภาคอาเซียนต่อไป หอการค้าฯ เชื่อมั่นว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะเป็น Regional Hub ใน ASEAN”
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์พบว่าการส่งออกไทยไปซาอุดีฯพบว่าตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย. ปีนี้ หรือนับแต่การเยือนของ พล.อ.ประยุทธ์ไทยมีมูลค่าร่วมการค้ากับซาอุดีฯ 7,679 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 50%
แบ่งเป็นส่งออก มีมูลค่า 1,445 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น18% และนำเข้า มีมูลค่า 6,233 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 60%
เป้าหมายการส่งออกไปตลาดซาอุดีฯปีนี้กระทรวงพาณิชย์คาดว่าจะขยายตัว20% หรือมีมูลค่า 61,800 ล้านบาท หรือ 1,545 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัว 5%จากปีนี้หรือมีมูลค่า65,000ล้านบาท หรือ1,625ล้านดอลลาร์สหรัฐ