สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.88 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 88.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 2.56 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 95.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
ตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า ทางการจีนอาจจะเดินหน้าใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ต่อไป เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในวันจันทร์ที่ผ่านมา (7 พ.ย.) จีนพบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 7,691 ราย เพิ่มขึ้นจากระดับ 5,643 รายในวันอาทิตย์ที่ 6 พ.ย.
รายงานระบุว่า มณฑลกวางตุ้งได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด โดยล่าสุดพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกว่า 20 จาก 31 มณฑลของจีน ขณะที่มณฑลกว่างโจวต้องเลื่อนการจัดงานมอเตอร์โชว์ที่มีกำหนดเปิดฉากในสัปดาห์หน้าออกไปอย่างไม่มีกำหนด และโรงเรียนต่าง ๆ ในจีนกำลังพิจารณาว่าจะต้องเปลี่ยนไปเรียนทางออนไลน์หรือไม่
นายเคลาส์ เซนเกล รองประธานหอการค้ายุโรป (EU) ประจำประเทศจีนเปิดเผยว่า "ภาพที่ชัดเจนมากในขณะนี้คือการจัดกิจกรรมทางธุรกิจจำนวนมากต้องถูกยกเลิกหรือเลื่อนออกไป ผู้คนไม่กล้าเดินทางเพราะมีข้อจำกัดมากเกินไป บริษัทต่าง ๆ จากกวางตุ้งและเซินเจิ้นไม่สามารถเข้าร่วมงานมหกรรมการส่งออกนานาชาติของจีนที่จะจัดขึ้นในเซี่ยงไฮ้ในสัปดาห์นี้ได้"
นักลงทุนจับตาผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ ซึ่งจะชี้ชะตาทิศทางการเมืองสหรัฐในช่วง 2 ปีข้างหน้า ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2567 อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การจะรู้ว่าพรรคใดได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งกลางเทอมนั้นอาจต้องใช้เวลาหลายวัน
ทั้งนี้ ผลการสำรวจของสำนักโพลล์ส่วนใหญ่พบว่า พรรครีพับลิกันจะสามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ส่วนการเลือกตั้งในวุฒิสภาจะเป็นไปอย่างสูสีระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว