‘โซนี่’ทุ่ม 2,500 ล้าน ตั้งโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ในไทย

12 พ.ย. 2565 | 08:23 น.
อัปเดตล่าสุด :12 พ.ย. 2565 | 16:29 น.

‘โซนี่’ ทุ่ม 2,500 ล้านบาท ตั้งโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ในไทย คาดสร้างงานถึง 2,000 ตำแหน่ง โดยย้ายการผลิตออกจากญี่ปุ่น เพื่อลดต้นทุนการผลิต

สำนักข่าว Nikkei รายงานว่า บริษัท โซนี่ เซมิคอนดักเตอร์ โซลูชั่นส์ (Sony Semiconductor Solutions) จะทุ่มทุนประมาณ 1 หมื่นล้านเยน (หรือราว 2.5 พันล้านบาท)สร้างโรงงานเซมิคอนดัคเตอร์ในไทย

 

โดยการก่อสร้างอาคารใหม่บริเวณฐานการผลิตเดิมในภาคกลางของประเทศไทย ซึ่งการก่อสร้างอยู่ในระหว่างการดำเนินการแล้ว พร้อมคาดว่าโรงงานจะเริ่มการผลิตได้ภายในปีงบการเงินซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคมปี 2025

โรงงานแห่งใหม่นี้จะใช้ผลิตเซ็นเซอร์รับภาพ (Image Sensor) ประเภทหนึ่งที่ใช้ในรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Automated Car) หรือรถยนต์ไร้คนขับ เพื่อตรวจจับคนเดินถนนและสิ่งกีดขวาง 
 

เมื่อโรงงานแห่งนี้สร้างเสร็จแล้ว ขนาดการผลิตของโซนี่ในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นถึง 70% โดยบริษัทคาดว่าจะจ้างพนักงาน 2,000 คน เพื่อทำงานในโรงงานแห่งนี้

โดยกระบวนการส่วนหน้า (Front-End Process) ของการสร้างวงจรบน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซมิคอนดักเตอร์จะแล้วเสร็จในญี่ปุ่น

 

ขณะที่โรงงานในประเทศไทยจะดำเนินการส่วนหลัง (Back-End) และผลิตภัณฑ์ที่สำเร็จจะถูกส่งออกไปทั่วโลก
 

แม้ว่ากระบวนการส่วนแรกจะต้องใช้ความเชี่ยวชาญระดับสูง แต่ขั้นตอนส่วนหลังนี้ต้องการกำลังคนจำนวนมากในการใช้งานเครื่องจักร การรักษาต้นทุนแรงงานให้ต่ำลงจึงเป็นปัจจัยสำคัญเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน 

 

ดังนั้นการดำเนินงานในประเทศไทยซึ่งมีค่าแรงค่อนข้างต่ำจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัท จากปัจจุบันที่โซนี่ดำเนินกระบวนการผลิตเซ็นเซอร์ยานยนต์ทั้งส่วนหน้าและส่วนหลังที่โรงงานในญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่

 

ทั้งนี้ทาง Nikkei Asia ยังอีกชี้ว่า สาเหตุที่ Sony ตัดสินใจย้ายฐานการผลิตออกจากญี่ปุ่น เป็นเพราะต้องการลดค่าใช้จ่ายในการผลิต และเสริมความยืดหยุ่นให้กับซัพพลายเชนที่กำลังอยู่ท่ามกลางภาวะเร่งด่วนหลายอย่าง

 

ในช่วงต้นของการระบาดใหญ่ ห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกได้หยุดชะงัก ทำให้การผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์ลดลงตามไปด้วย

 

โซนี่จึงพยายามสร้างระบบที่ยืดหยุ่นขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการจัดหาผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในกรณีที่เกิดภัยพิบัติหรือการระบาดของโรค
 

อย่างไรก็ตามความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้ในพีซีและสมาร์ทโฟนกำลังลดลง แต่ความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้ในรถยนต์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากโลกกำลังนำเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ และการขับขี่อัตโนมัติมาใช้มากขึ้น
 

ทั้งนี้ตลาดเซ็นเซอร์รับภาพ CMOS คาดว่าจะแตะ 2.69 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2026 เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปี 2021 โดยโซนี่ถือเป็นผู้ผลิตเซ็นเซอร์รับภาพชั้นนำของโลก โดยควบคุมตลาดประมาณครึ่งหนึ่ง