รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงแผนการจัดหารถโดยสารประจำทาง (รถเมล์) ใหม่ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่า ในขณะนี้ ขสมก. อยู่ระหว่างการแก้ไขและปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. ที่ดำเนินการฉบับเมื่อปี 2563 โดยเฉพาะแผนการจัดหารถเมล์ใหม่ ทั้งการเช่าหรือการซื้อรถโดยสารประจำทางพลังงานไฟฟ้า (รถเมล์ EV) รวมทั้งการยกเลิกแนวทางการจ้างเหมาเอกชนวิ่งให้บริการจำนวน 1,500 คัน เนื่องจากตอนนี้ ผู้ประกอบการเอกชนได้นำรถเมล์ EV มาวิ่งให้บริการแล้ว
ทั้งนี้ ขสมก.จึงต้องเร่งปรับแผนฯ เพื่อจัดหารถมาวิ่งให้บริการประชาชน และทดแทนรถเมล์เก่าที่มีส่วนในการสร้างปัญหามลพิษฝุ่นละออง PM 2.5 ส่งผลให้รถเมล์บางคันไม่สามารถนำออกมาวิ่งให้บริการได้ ภายหลังที่กฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก และกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ให้สอดคล้องตามเกณฑ์มาตรฐานค่าควันดำและวิธีการตรวจวัดที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำหนด ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว โดยกำหนดให้เครื่องยนต์ไม่มีภาระค่าควันดำสูงสุดไม่เกิน 30% จากเดิม 45%
นอกจากนี้เมื่อมีการแก้ไขและปรับปรุงแผนฯ แล้วเสร็จ จะเสนอต่อคณะอนุกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ขสมก. จากนั้นจะเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณาเห็นชอบ และเสนอต่อสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ฯ พิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ ขสมก. จึงได้เสนอแผนขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความทันสมัยให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาเบื้องต้น พร้อมทั้งสอบถามความเห็นกระทรวงฯ ควบคู่ไปด้วย
ส่วนความคืบหน้าแผนระยะสั้นในการจ้างเหมาบริการเดินรถเมล์ไฟฟ้าจำนวน 224 คัน วงเงิน 953 ล้านบาทนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือสภาพัฒน์ฯ ว่า การดำเนินการดังกล่าว จะเป็นงบลงทุน หรืองบดำเนินการ เนื่องจากหลายหน่วยงานมีความเห็นไม่ตรงกัน อีกทั้ง จัดทำร่างเอกสารการประกวดราคา (TOR) เพื่อประกอบความคิดเห็นตามที่สำนักงบประมาณได้ส่งหนังสือถึง ขสมก. เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา โดยมีความคิดเห็นให้ ขสมก.จัดหารถเมล์ EV ตามขั้นตอนในรูปแบบการใช้งบลงทุนให้สอดคล้องกับระเบียบของรัฐวิสาหกิจ อย่างไรก็ตาม ตั้งเป้าว่า จะมีความชัดเจนภายในปี 2565 เพื่อเริ่มดำเนินการขั้นตอนต่อไปในปี 2566
“ตอนนี้ ขสมก. ต้องเร่งปรับปรุง และจัดทำแผนการจัดหารถเมล์ใหม่ให้ชัดเจน เพราะรถเมล์ ขสมก. ที่มีอยู่ มีสภาพเก่า แล้วจะไปยังไงต่อ รวมถึงแผนฟื้นฟูฯ ก็ยังไม่จบ ซึ่งก็หาทางอยู่ว่า จะทำยังไง เพราะรัฐฯ ยังไม่ได้ให้เงินมาด้วย และถ้าไม่ได้เงิน ก็ต้องหาวิธีต่างๆ เพื่อจัดหารถเมล์ใหม่มาให้บริการประชาชน”
สำหรับแผนการนำรถเมล์ EV มาให้วิ่งให้บริการประชาชนในเส้นทางต่างๆ นั้น ภายในระยะเวลา 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2565-2567 จะมีรถเมล์ EV จำนวนรวม 8,000 คัน แบ่งเป็น ผู้ประกอบการเอกชน จำนวน 3,000 คัน กล่าวคือ ภายในปี 2565 จำนวน 1,250 คัน และในปี 2566 อีกประมาณ 1,800 คัน ขณะที่ ขสมก. มีแผนจัดหารถเมล์ EV จำนวน 3,000 คัน โดยจะทยอยรับมอบในปี 2566 จำนวน 400 คัน และปี 2567 ประมาณ 2,600 คัน รวมถึงแผนการจัดหารถทัวร์ EV ของ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ด้วย