จากเหตุการณ์คนร้ายวางระเบิดขบวนรถไฟขบวนสินค้า เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2565 และระเบิดซ้ำในวันที่ 6 ธันวาคม 2565 จนทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 4 ราย นั้น พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงมาตรการดูแลความเรียบร้อย และการสร้างความเชื่อมั่น ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดสงขลา ว่า ขณะนี้ได้สั่งการเพิ่มกำลังดูแล โดยใช้กำลังในพื้นที่ที่มีอยู่ ซึ่งได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. 2565
ทั้งนี้ จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซน ประกอบด้วย 1.โซนอำเภอเมืองสงขลา 2.โซนอำเภอสะเดา และ 3.โซนอำเภอหาดใหญ่ โดยจัดเพิ่มชุดปฏิบัติการจักรยานยนต์เคลื่อนที่เร็ว กำลังของทหารพรานหญิงและกำลัง ร้อยร.อโนทัย ลงไปประสานงานกับทางตำรวจ และทางฝ่ายปกครอง หรืออาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ต่าง ๆ ซึ่งตอนนี้ทำแผนเรียบร้อยทุกส่วน และเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน
“โดยเฉพาะในเมืองหาดใหญ่ จะมีการบูรณาการด่านตรวจเพิ่มเข้ามา 3 ด่านหลัก 4 ด่านเสริม พร้อมด้วยชุดเคลื่อนที่เร็ว ปฏิบัติการร่วมทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เป็นชุดเคลื่อนที่เร็วรถจักรยานยนต์ตรวจตลอดเวลา”
อีกส่วนหนึ่งก็คือตามบ้านเช่า หอพักต่าง ๆ ก็จะเข้าตรวจสอบ ว่ามีการเข้าพักกันถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ ต่าง ๆ เหล่านี้ มีการดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงหลังปีใหม่ ไม่ได้กำหนดระยะเวลาจบ
พล.ท.ศานติ กล่าวต่อว่า สถานการณ์ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ยังสามารถรับมือได้ โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ มีการแบ่งกำลังออกตรวจตราดูแลเป็นโซน ๆ ตามความยาวทางรถไฟที่ได้รับมอบหมายตลอดเส้นทาง ซึ่งเดิมเส้นทางรถไฟหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ยังไม่เคยมีปฏิบัติการแบบนี้ แต่ต้องพัฒนาขึ้นมา และจะดำเนินไปเรื่อย ๆ จะตรวจสอบไปทุกส่วน
“เราได้กำลังอีกส่วนสนับสนุน ก็คือเครือข่ายวิทยุเครื่องแดง ทั้งที่อยู่ในพื้นที่เมืองหาดใหญ่ ทั้งหมดเป็นกำลังหลัก ที่เป็นกำลังภาคประชาชนที่คอยแจ้งข่าว แจ้งเตือนความผิดปกติ สิ่งผิดปกติต่าง ๆ ที่น่าสงสัยให้เจ้าหน้าที่ทราบ”
นอกจากนี้ก็ได้มีการจัดตั้งวอร์รูมในพื้นที่จังหวัดสงขลา มณฑลทหารบกที่ 42 (มทบ.42) เป็นผู้ควบคุม และนอกเหนือจากจังหวัดสงขลาแล้ว ทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ที่มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างทหาร ตำรวจ พลเรือน ด้วยกันทั้งหมด ให้ทุกจังหวัดทำแผนเผชิญเหตุ การป้องกันพื้นที่อ่อนไหวหรือสำคัญ จุดไหนที่ต้องรปภ. ต่าง ๆ ให้ทำทั้งหมดทุกจังหวัด
แม่ทัพภาค 4 กล่าวอีกว่า สิ่งที่อยากจะขอก็คือ ความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ลำพังของเจ้าหน้ารัฐนั้น ถึงแม้จะมีเยอะก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถที่จะดูทุกตรอกซอกซอยได้ ฉะนั้น จึงต้องขอความร่วมมือจากกำลังภาคประชาชน ที่พบเห็นสิ่งผิดปกติต่าง ๆ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือว่าเห็นกลุ่มบุคคลกลุ่มก้อนต่าง ๆ ที่เดินทางเข้ามาและเป็นจุดน่าสงสัย ตรงนี้ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน เราจะเข้าตรวจสอบให้ทันท่วงที