มหาดไทย คุมเข้มออกมาตรการป้องกันแก้ไขทุจริตสวมบัตรประชาชน

11 ม.ค. 2566 | 09:47 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ม.ค. 2566 | 17:03 น.

มหาดไทย คุมเข้ม “สวมบัตรประชาชน” พัฒนาระบบสแกนนิ้วเจ้าหน้าที่ผู้ออกบัตร เพิ่มการตรวจสอบกลุ่มเสี่ยง ป้องกันสวมสิทธิผิดกฎหมาย

จากกรณีที่ กระทรวงมหาดไทยได้รับร้องเรียนปัญหาการทุจริตสวมตัวทำบัตรประชาชน  กรณีที่เป็นคนต่างด้าวสวมตัวคนไทยและคนไทยสวมตัวคนไทยด้วยกันเอง แม้ออกมาตรการป้องกันการทุจริตอย่างเข้มข้น ทั้งการลงโทษทางวินัยและอาญาแล้วก็ตาม ก็ยังพบปัญหาอย่างต่อเนื่อง

 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงมหาดไทย เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการทุจริตสวมบัตรประชาชน โดยพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้มีระบบยืนยันการอนุญาต ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้อนุญาตต้องสแกนลายนิ้วมือของตนเองในระบบทุกครั้ง ควบคู่กับการลงนามในเอกสาร ทำให้พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากเป็นการอนุญาตด้วยตนเองที่มีระบบเทคโนโลยีเป็นเครื่องยืนยัน ซึ่งปลัดจังหวัด นายอำเภอ ผู้อำนวยการเขต ปลัดเทศบาล จะกำกับดูแลเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการด้วยความละเอียดรอบคอบ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการที่กำหนดในระเบียบอย่างเคร่งครัด

 กรณีขอมีบัตรครั้งแรก
 

1. มีอายุตั้งแต่ 7 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ซึ่งบิดามารดาตามสูติบัตรแยกกันอยู่ โดยในวันมาขอทำบัตร บิดาหรือมารดาที่ไม่ได้อยู่ด้วยและติดต่อมาเป็นเวลานานตั้งแต่เล็กจนมาขอมีบัตรเป็นผู้พาไปทำบัตร โดยมีเอกสารหลักฐานมาแสดงหรือไม่ก็ตาม

 

2.มีอายุตั้งแต่ 7 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ไม่ปรากฏบิดามารดามาแสดงตน โดยในวันมาขอทำบัตร ญาติหรือเจ้าบ้านหรือบุคคลซึ่งรับดูแลผู้นั้นอยู่ซึ่งมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกัน หรือบุคคลอื่นซึ่งมีคำสั่งศาลแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครอง ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ เป็นผู้พาไปทำบัตร โดยมีเอกสารหลักฐานมาแสดงหรือไม่ก็ตาม

 

3.มีอายุตั้งแต่ 7 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ไม่ปรากฏบิดามารดา หรือญาติ หรือเจ้าบ้าน หรือบุคคลซึ่งรับดูแลผู้นั้นอยู่ซึ่งมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกันกับผู้ขอมีบัตร หรือบุคคลอื่นซึ่งมีคำสั่งศาลให้เป็นผู้ปกครอง ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ มาแสดงตน โดยในวันมาขอทำบัตร มีบุคคลอื่นซึ่งไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับผู้ขอมีบัตร ไม่มีคำสั่งศาลแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครอง ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ พามาทำบัตร ซึ่งอ้างว่าได้รับฝากเลี้ยงเด็กมาตั้งแต่เล็ก ฯลฯ โดยมีเอกสารหลักฐานมาแสดงหรือไม่ก็ตาม

 

4. มีอายุตั้งแต่ 7 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีชื่อในทะเบียนบ้าน ไม่เคยขอมีบัตรเลยมาเป็นเวลานาน มีบิดาและหรือมารดาและ/หรือมีบุคคลอื่นมาแสดงตน โดยมีเอกสารหลักฐานมาแสดงหรือไม่ก็ตาม

 

5.เป็นผู้ได้รับการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้านจากสำนักทะเบียนอื่น แล้วมาขอมีบัตรที่สำนักทะเบียนที่บุคคลดังกล่าวอาศัยอยู่ ณ ปัจจุบัน โดยมีเอกสารหลักฐานมาแสดงหรือไม่ก็ตาม

 

6. มีอายุตั้งแต่ 7 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน โดยมีบิดาหรือมารดาเป็นคนต่างด้าว และผู้ขอมีบัตรอาศัยอยู่ในต่างประเทศมาโดยตลอดและกลับมาประเทศไทยเพื่อขอมีบัตร โดยจะมีบิดาและหรือมารดา หรือจะมีบุคคลอื่นมาแสดงตน และมีเอกสารหลักฐานมาแสดงหรือไม่ก็ตาม

 

กรณีขอมีบัตรใหม่หรือขอเปลี่ยนบัตร

7.ไม่ปรากฏหลักฐานลายนิ้วมือ และหรือรูปถ่ายในฐานข้อมูลทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชน

 

8.ปรากฏหลักฐานการทำบัตรที่ไม่ได้ออกโดยระบบคอมพิวเตอร์ และไม่ได้ขอมีบัตรใหม่หรือขอเปลี่ยนบัตรเลย

 

9.เป็นผู้ทำศัลยกรรมจนเห็นได้ชัดเจนว่าไม่เหมือนกับบุคคลเดิม

 

10. เป็นบุคคลทางกายภาพร่างกายเห็นได้ชัดว่าไม่ตรงกับรายการทางทะเบียนราษฎร

 

11. เป็นบุคคลประสบอุบัติเหตุ ทำให้ไม่สามารถพิสูจน์ใบหน้าหรือลายนิ้วมือที่ชัดเจนได้ โดยมีเอกสารหลักฐานมาแสดงหรือไม่ก็ตาม

 

12. เป็นการขอคืนรายการในทะเบียนบ้านและทำเรื่องย้ายตนเองไปยังสำนักทะเบียนที่ตนอาศัยอยู่ ณ ปัจจุบัน โดยมีความประสงค์ขอมีบัตรประจำตัวประชาชน ณ สำนักทะเบียนที่ตนย้ายไปอยู่ใหม่ โดยมีเอกสารหลักฐานมาแสดงหรือไม่ก็ตาม

 

13.ไม่ปรากฏหลักฐานการทำบัตรในฐานข้อมูลทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชน โดยอ้างว่าเคยมีบัตรประจำตัวประชาชนมาก่อนแล้ว (บัตรรุ่นเก่า) โดยมีเอกสารหลักฐานมาแสดงหรือไม่ก็ตาม.

 

ที่มา: กระทรวงมหาดไทย