นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.ดำเนินการร่วมกับตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจท่องเที่ยว เพื่อบริหารจัดการด้านความปลอดภัยในพื้นที่ร่วมกัน รวมถึงการให้บริการแก่ผู้ประกอบการอย่างครบวงจรในนิคมอุตสาหกรรม ทั้งนี้ จะเริ่มนำร่องที่มาบตาพุดคอมเพล็กซ์ โดยตั้งเป้าพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม เพื่อบรรลุเป้าหมายของการอยู่ร่วมกันระหว่างนิคมอุตสาหกรรมกับชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการจราจร ปัญหายาเสพติด และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการให้บริการสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบการ
"กนอ.ให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานในโรงงานและชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรม ทั้งในส่วนของกระบวนการจัดการความปลอดภัยและอาชีวอนามัย กระบวนการด้านการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมรวมถึงกระบวนการส่งเสริมการลงทุน เพื่อให้เกิดความพึงพอใจทั้งต่อผู้ประกอบการและประชาชน"
พลตำรวจโท อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 กล่าวว่า การดูแลความปลอดภัยในนิคมอุตสาหกรรม ประกอบด้วย 3 เรื่องหลัก คือ ปัญหาการจราจร ยาเสพติด และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าร่วมประชุมกับผู้ประกอบการเพื่อรับฟังปัญหา อุปสรรค เป็นประจำทุกเดือน ตามนโยบายเพิ่มการมีส่วนร่วมระหว่างตำรวจกับประชาชน นำมาสู่การแก้ไขปัญหาร่วมกัน
รวมถึงการให้บริการด้านต่าง ๆ นอกสถานที่ (Mobile Service) ซึ่งเป็นการบริหารจัดการทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนของผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม นำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
ขณะที่ พลตำรวจโท สุคุณ พรหมายน ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า ในส่วนของการสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศนั้น การจัดการความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ นับเป็นเรื่องสำคัญ โดยตำรวจท่องเที่ยวได้จัดบริการครบวงจรให้กับนักลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น บริการล่าม 5 ภาษา เพื่ออำนวยความสะดวก สร้างความพึงพอใจ และสร้างความเชื่อมั่นในสายตาของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย